ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่9 (เฟอร์นิเจอร์ ตามลักษณะการติดตั้ง)


เฟอร์นิเจอร์ ตามลักษณะการติดตั้ง

หากเราจะแบ่ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ตามลักษณะการติดตั้งแล้วเราสามารถ แบ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ออกได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆคือ
1. เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ (Built-in Furniture หรือ Fixed Furniture)
2. เฟอร์นิเจอร์ ลอยตัว (Movable Furniture หรือ Loose Furniture)
3. เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถถอดประกอบได้ (Knock down Furniture)
เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ (Built-in Furniture หรือ Fixed Furniture)
หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ ที่ได้รับการออกแบบ และ ติดตั้งสำหรับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เป็นการเฉพาะ ยากที่จะเคลื่อนย้าย และติดตั้งใหม่ ข้อดีของ เฟอร์นิเจอร์ แบบนี้ คือ มีความแข็งแรงสูงมาก เนื่องจากยึดเกาะกับอาคาร หรือ โครงสร้างอาคาร มีรูปแบบเฉพาะตัว หรูหรา (Elegance) เป็นเอกเทศ (Unique) สามารถติดตั้ง และดัดแปลงให้เข้ากับพื้นที่ต่างๆ ได้โดยไม่จำกัด รวมทั้งมักจะนิยมออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ ให้สูง จนชนฝ้าเพดาน เพื่อประโยชน์การใช้สอยสูงสุด และป้องกันการสะสมตัวของฝุ่นได้เป็นอย่างดี (เหมาะสำหรับ ประเทศ ที่มีฝุ่นมาก อย่างบ้านเรา) อย่างไรก็ดี ข้อเสียที่สำคัญของ เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ คือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และเปลี่ยน รูปร่าง หน้าตาได้ยาก ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ หรือต้องการย้ายที่อยู่ เฟอร์นิเจอร์ เหล่านี้ จะต้องถูกรื้อถอนทิ้งไป โดยแทบจะไม่สามารถนำกลับ มาใช้ใหม่ได้อีกเลยรวมทั้งราคาของ เฟอร์นิเจอร์ ประเภทนี้ จะมีราคาแพงมาก เนื่องจากต้องใช้ แรงงานฝีมือ มาทำการ ติดตั้งที่หน่วยงานของลูกค้าเป็นการเฉพาะ และบ่อยครั้งที่ลูกค้าจะต้องทนกับปัญหา ในเรื่องของฝุ่น ที่เกิดจาก การทำงานในหน่วยงาน และกลิ่นสีที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพอีกด้วย
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Movable Furniture หรือ Loose Furniture)
หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตสำเร็จที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ แล้วนำมาวางในหน่วยงาน ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบ และประโยชน์ใช้สอย ได้จากตัวอย่างที่มีอยู่จริง ในร้านค้าได้ ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ คือเลือกรูปแบบ และประโยชน์ใช้สอยได้ จากตัวอย่างที่มีอยู่จริง สามารถทดลองการใช้งานได้จริง ราคาถูกกว่าเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปตามพื้นที่ต่างๆ ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้การที่ผลิตสำเร็จจากโรงงานยังทำให้ตัดปัญหา เรื่องฝุ่นไม้ที่เกิดจากการทำงานในพื้นที่ และกลิ่นสีอีกด้วย ส่วนข้อเสียที่สำคัญ ของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ ได้แก่มีรูปแบบ และขนาดจำกัดไม่สามารถปรับเปลี่ยน ให้เข้าพอดีกับพื้นที่ได้ และเฟอร์นิเจอร์ ที่มีความสูงมากๆ จะมีปัญหา เรื่องการสะสมตัวของฝุ่นบนหลังตู้ (เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสูงไม่เต็มพื้นที่) และอาจทำให้เกิด ภูมิแพ้ได้ รวมทั้งรูปแบบ ที่มีมักจะมีการผลิตเป็นจำนวนมากๆ เนื่องจากเป็น ระบบอุตสาหกรรม ทำให้ขาดความ เป็นเอกเทศ นอกจากนี้ งานตกแต่งภายใน ที่ใช้ แต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพียงอย่างเดียวจะให้ ความรู้สึกเหมือนห้องเช่า และส่วนใหญ่ มักมีประโยชน์ใช้สอยไม่ครบถ้วน ตามพื้นที่ที่มีอยู่ (เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจาก จะต้องขนย้ายได้) รวมทั้งอาจจะทำให้ดูไม่หรูหราเท่าที่ควร ในงานตกแต่งภายใน แล้วจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องผสมผสาน ทั้งงาน เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และติดตั้งกับที่เข้าด้วยกัน โดยเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ มักจะมีหน้าที่จัดเก็บของ ให้เป็นระเบียบ ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว มักจะเป็นจุดเด่นที่คอยโชว์ความสวยงาม หากเน้นที่เฟอร์นิเจอร์ชนิดใด ชนิดหนึ่ง มากเกินไปแล้ว งานออกแบบมักจะไม่สมดุล เช่น หากมีเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ มากเกินไปห้อง หรือบ้านอาจดูเหมือน ห้องเก็บของขนาดใหญ่ ในขณะที่มีแต่ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว บ้านก็ดูเหมือนบ้านเช่า ที่เจ้าของพร้อมจะย้ายออกได้เสมอ ดังนั้นงานออกแบบในปัจจุบัน จึงมักจะสร้างความสมดุลด้วยเฟอร์นิเจอร์ทั้งสอง ชนิดนี้เสมอ

เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดประกอบได้ (Knock down Furniture)

หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ที่รวมเอาข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองระบบแรกเข้าด้วยกัน โดยมี ลักษณะเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ ในขณะที่มีการผลิตที่เกือบจะ สำเร็จรูปจากโรงงาน เพียงแต่นำมาติดตั้งด้วยช่างผู้ชำนาญงานเพียงไม่กี่คน และใช้เวลาไม่นานนัก ทำให้ลดปัญหาเรื่องฝุ่นไม้ และกลิ่นสีในหน่วยงานได้เป็น อย่างมาก อย่างไรก็ดี เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ มักต้องการการออกแบบ และการตั้งเครื่องเพื่อเตรียมการผลิต ที่ยุ่งยาก และซับซ้อน ดังนั้น ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ จึงต้องทำการผลิตเป็นจำนวนมาก Mass Production เพื่อเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และการเตรียม การผลิตให้ลดลงมามากที่สุด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบ Knock down ในบ้านเรา นิยมผลิตโดยใช้วัสดุสังเคราะห์ ประเภท Particle Board หรือ Chip Board ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ง่าย ในการผลิต จึงส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ มีอายุการใช้งานต่ำกว่า เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไม้จริง หรือไม้อัด นอกจากนี้ รูปแบบการผลิต ของเฟอร์นิเจอร์ Knock down ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากขั้นตอนการผลิต ค่อนข้างยุ่งยาก และเครื่องจักร ในการผลิตก็มีราคาสูงมาก ดังนั้นหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ ประเภทนี้โดยส่วนใหญ่จึงเหมือนๆ กัน ทำให้เกิดสงครามราคา มีการตัดราคากันอย่างมากมาย และ สุดท้าย ผู้ผลิตก็ต้องไปทำการลดคุณภาพของสินค้าลงไปอีก ทำให้เฟอร์นิเจอร์ Knock down กลายไป เฟอร์นิเจอร์ราคาถูกไปในที่สุด


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่8 (ลักษณะต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์และวิธีการดูแล)





ลักษณะต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์และวิธีการดูแล
เฟอร์นิเจอร์ที่บิลท์อินนั้น ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันสักเท่าไหร่ สาเหตุเนื่องมาจากว่าราคาในการบิลท์อินค่อนข้างที่จะสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาของงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปโดยทั่วไป และบางครั้งเจ้าของงานอาจจะได้งานไม่ถูกใจเท่าที่ควร เรื่องการที่จะต้องสั่งแก้ไข อาจจะต้องมีการรื้อทิ้งทำใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นงานสำเร็จรูปสามารถทำการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงแบบตามที่ต้องการได้ง่ายกว่า การซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา ให้ดูสวย สดใส ดูใหม่อยู่เสมอครับ โดยในขั้นตอนแรกต้องขัดสีเก่าออกด้วยกระดาษทรายหยาบเบอร์ 4 หรือ ผ้าทรายหยาบ ให้สีเก่าออกหมดตามซอกมุมต่างๆ ให้ใช้กระดาษทรายทับเพื่อสอดเข้ามุม แล้วปัดฝุ่นผง ขัดให้สะอาด แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ
ปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างมีราคาถูกไม่สูงเหมือนในอดีต เนื่องจากว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์นั้นมีต้นทุนต่ำว่าเดิม สังเกตได้จากร้านเฟอร์นิเจอร์ตามห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านเฟอร์นิเจอร์โดยทั่วไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเฟอร์นิเจอร์ยังคงขึ้นอยู่กับต้นทุนของวัตถุดิบที่นำมาผลิตว่าเป็นแบบใด โดยทั่วไปถ้าเป็นงานไม้จริงแบบประณีต หรือไม้ที่เทียบเท่าไม้จริงแบบประณีตนั้นราคาก็จะค่อนข้างที่จะสูงตามไปด้วย ส่วนในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ที่บิลท์อินนั้น ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันสักเท่าไหร่ สาเหตุเนื่องมาจากว่าราคาในการบิลท์อินค่อนข้างที่จะสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาของงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปโดยทั่วไป และบางครั้งเจ้าของงานอาจจะได้งานไม่ถูกใจเท่าที่ควร เรื่องการที่จะต้องสั่งแก้ไข อาจจะต้องมีการรื้อทิ้งทำใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นงานสำเร็จรูปสามารถทำการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงแบบตามที่ต้องการได้ง่ายกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องอาศัยจำนวนในการทำ
เฟอร์นิเจอร์ที่มีแบบที่เรียบง่าย ไม่มีมุมโค้ง ลวดลายมากนัก จะช่วยให้การทำความสะอาด ปัดฝุ่น เช็ดถูง่ายกว่าเฟอร์นิเจอร์ประเภทหลุยส์ , แกะสลักที่มีฝุ่นเข้าไปเกาะตามซอกมุมทำความสะอาดยากมาก วิธีการดูแลรักษาผ้าบุโซฟาหรือเบาะเก้าอี้ทานข้าว ควรใช้สเปรย์ที่ฉีดแล้วสามารถเป็นฟิล์มเคลือบผิวของผ้าบุให้ปราศจากคราบสกปรกที่จะฝังลงในเนื้อเส้นใยของผ้าได้ วิธีการคือการฉีดสเปรย์นั้นให้ทั่วพื้นผิวของผ้าบุทิ้งให้แห้งจะเป็นฟิล์มเกาะผิวของผ้าบุไว้ แต่ในการใช้ผ้าบุก็ควรที่จะทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการทำให้ เฟอร์นิเจอร์หนังที่บ้านของคุณดูใหม่ และสะอาด สวยงามอยู่เสมอ
ซึ่งวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์หนังนั้นมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้ วิธีที่ 1 คือ แบบทำความสะอาดคราบสกปรกให้หมดไป ทำได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นพอหมาด ๆ มาเช็ด ๆ ถู ๆ คราบสกปรก ระยะเวลาในการทำคือ 6 เดือน/ครั้ง วิธีที่ 2 คือ การเคลือบเงาให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่และเงางามอยู่เสมอ ทำได้โดยการเช็ดน้ำมันเคลือบเงา ถ้าเฟอร์นิเจอร์อยู่ในห้องแอร์ ก็ไม่ต้องเช็ดบ่อย ถ้าเฟอร์นิเจอร์ถูกแดดและฝุ่นอยู่บ่อย ๆ ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เพราะฝุ่นและเหงื่อเป็นศัตรูหลักในการดูแลรักษา ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปฏิบัติตามกันดูนะครับ รับรองว่าเฟอร์นิเจอร์หนังของคุณจะกลับมาเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ
และในส่วนต่อมาก็คือการซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา ให้ดูสวย สดใส ดูใหม่อยู่เสมอครับ โดยในขั้นตอนแรกต้องขัดสีเก่าออกด้วยกระดาษทรายหยาบเบอร์ 4 หรือ ผ้าทรายหยาบ ให้สีเก่าออกหมดตามซอกมุมต่างๆ ให้ใช้กระดาษทรายทับเพื่อสอดเข้ามุม แล้วปัดฝุ่นผง ขัดให้สะอาด ต่อมาก็ขัดเรียบอีกครั้งด้วยกระดาษทรายเบอร์ 2 เพื่อให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เรียบเนียน และทำความสะอาดอีกครั้ง
แล้วก็จัดการทาชแลคสำเร็จรูปรองพื้นก่อน 1 เที่ยว เพื่อป้องกัน สีหรือยางไม้ออกมาแล้วค่อยทาสีตามต้องการโดยทาสีแต่ละเที่ยวทิ้งระยะห่างประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ลายให้ทาสีแลกเกอร์ ผสมทินเนอร์ในอัตราส่วน 1:1 เช่นกัน และในส่วนที่ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่สามารถทาด้วยแปรงได้สะดวกนั้นเช่น ขาเก้าอี้ ตามซี่ของพนักพิง ให้ใช้ถุงมือสำหรับทาสีชุบสี บีบสีให้หมาดๆ แล้วกำส่วนที่ต้องการทาสีหลวมๆรูดไปมาจนทั่ว ดพียงเท่านี้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของเรา ก็จะดูสวยงาม สดใส และใหม่อยู่เสมอแล้วละครับ ไม่ยากเลยใช่มั้ยละครับ สำหรับการจัดการซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา นอกจากจะทำได้เองง่ายๆ แล้ว ยังคงคุณภาพเฟอร์นิเจอร์ของเรา ให้อยู่ทนนาน ใช้การได้คงทน ถาวร คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ






ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่7 ( โซฟา กับการดูแลรักษา)




โซฟา กับการดูแลรักษา

โซฟาที่สวยงามนั้นต้องควบคู่ไปกับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และเป็นประจำ เพราะโซฟานั้นทำมาจากผ้า และหนังซึ่งนอกจากจะเปื้อนง่ายแล้ว ยังดัดจับฝุ่นได้ดีอีกด้วย หากเราหมั่นดูแลรักษาโซฟาก็จะช่วยให้สีโซฟาสดใหม่อยู่เสมอ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
แน่นอนครับว่าการดูแลรักษาโซฟาที่ดี ย่อมทำให้สภาพของห้องนั้นน่าอยู่ตามไปด้วย เพราะ หากโซฟาสวยๆของเราเต็มไปด้วยฝุ่น หรือขนสัตว์ อาจทำให้อายุการใช้งานลดลง และเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคต่างๆ ตัวการสำคัญที่จ้องทำลายสุขภาพ
เมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบ้าน สำหรับบางบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ในบ้านด้วยกัน เราไม่สามารถไปบังคับให้สัตว์เลี้ยงไม่ไปยุ่งกับโซฟานุ่มๆได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเค้าไปเล่นหรือนอนบนโซฟา ก็มักจะฝากเศษขนไว้ซึ่งไม่ดีแน่หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ เพราะนอกจากจะสกปรกแล้ว อาจส่งกลิ่นที่น่ารำคาญมาอีกด้วย โดยเราสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำค้วยสะอาดได้ แต่ควรนำไปตากแดดบางเพื่อกำจัดไรฝุ่น เห็บ หมัด ต่างๆที่มาจากตัวสัตว์เลี้ยง ส่วนหมอนก็ควรนำไปซักทำความสะอาดให้เรียบร้อย หากมีของเหลวก็ควรรื้อผ้าคุมออกมาซักให้สะอาด ทางที่ดีควรเช็ดซับของเหลวต้องแต่แรกจะดีที่สุด
หากการใช้งานไม่ได้สกปรกอะไรมากนัก ก็เป็นงานง่ายเลยสำหรับการดูแลรักษา เพียงแค่ดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ ให้โซฟาสวยสดอยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามการนำไม่ตากแดดนั้นก็ยังคงมีความสำคัญ เพราะความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงไรฝุ่น ตัวการสำคัญของโรคภูมิแพ้ ดังนั้นหากสมาชิกในครอบครับเป็นโรคภูมิแพ้ คงต้องพิจาราณาเรื่องนี้หน่อย
โซฟาที่เราใช้งานเป็นประจำ จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ดูใหม่อยู่เสมอ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของโซฟาอีกด้วยหากวัสดุที่ทำนั้นมาจากหนัง การทำความสะอาดขั้นพื้นฐานก็คือการดูดฝุ่นอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งนอกจากจะช่วยกำจัดฝุ่นแล้ว ยังช่วยกำจัดขนสัตว์ ที่ซุกซ่อนอยู่ตามซอกตามมุมต้องๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ควรนำโซฟาไปตากแดดบ้าง เพื่อฆ่าเชื้อโรคต่างๆ และพาหะนำโรคต่างๆ เช่น ไรฝุ่น เห็บ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในครอบครัว

ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่6 (หลักการจัดตู้เซฟให้ถูกฮวงจุ้ย เพื่อโชคลาภด้านการเงินของคุณ)


หลักการจัดตู้เซฟให้ถูกฮวงจุ้ย  เพื่อโชคลาภด้านการเงินของคุณ  



ฮวงจุ้ยให้ความสำคัญกับ 5 ต. (ประ) ตู, ตู้ (เซฟ), โต๊ะ (อาหาร/ทำงาน), เตียง, และเตา (ไฟ) เมื่อตู้เซฟ คือ หนึ่งใน 5 ต. ดังนั้น  ทุกคนที่ต้องการความมั่งคั่งและมั่นคง ต้องมีตู้เซฟ หรือหากยังไม่สามารถมีตู้เซฟได้ ก็ควรเริ่มต้นด้วยกล่องเก็บเงินหรือลิ้นชักเก็บเงินให้เป็นกิจจะลักษณะเสียก่อน  ข้อควรปฏิบัติต่อตู้เซฟหรือกล่องเก็บเงิน คือ เลือกตำแหน่งตั้งวางที่เป็นมงคล เช่น ตำแหน่งขุมทรัพย์บ้าน ตำแหน่งขุมทรัพย์ประจำตัว ตำแหน่งดาวมงคล เป็นต้น
ตู้เซฟต้องคลุมผ้าสีขาวหรือสีครีม หรือทำตู้ครอบไม่ให้มองเห็นเป็นรูปลักษณ์ของเซฟ ด้านบนตั้งโคมไฟ (เปิดตลอด 24 ชม.) และนาฬิกาคริสตัลเล็กๆ ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพื่อเรียกเงินเข้าเซฟตลอดวันตลอดคืน 

ลูกคิด เคล็ดมั่งคั่งร่ำรวย เป็นนัยว่า  เงินทองเข้ามามากมายจนไม่สามารถนับได้ สามารถวางได้ทั้งบนเซฟและในเซฟ ยิ่งถ้าเป็นของมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษที่มั่งคั่งร่ำรวย หรือของใช้จริงๆ จากมหาเศรษฐี  ยิ่งสั่งสมพลังมากเท่านั้น

เราไม่จำเป็นต้องเก็บของมีค่าทุกอย่างไว้ในเซฟ สิ่งที่จำเป็นกว่านั้นคือ วัตถุเคล็ดในเซฟเพื่อเพิ่มพลังแห่งการดึงดูดความมั่งคั่งร่ำรวย

เคล็ดชั้นสูง

แรดหยก แรดเป็นสัตว์ที่มีความอดทน เป็นนัยของความสามารถที่จะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ให้ผ่านไปได้ด้วยดี ดังนั้นแรดจึงสามารถตั้งวางได้ทุกที่ในอาคารบ้านเรือน ถ้าตั้งไว้ในเซฟจะหมายถึงทำให้มีภาวะการเงินที่แข็งแกร่ง เนื่องจากแรดเป็นสัตว์ธาตุน้ำ และมีนิสัยบุกตะลุยทะลวงไปข้างหน้า การตั้งวางแรดนั้นต้องหันหน้าแรดเข้าด้านในตู้เซฟ คือ เป็นการนำพลังแห่งความมั่งคั่งเข้ามาสู่ตู้เก็บเงิน

ปูห่วยไช้ เป็นปูที่แกะสลักจากอัญมณีโมรา (Agate) เป็นหนึ่งเคล็ดวัตถุที่ใช้ในวิชาห่วยไช้ เพื่อทำให้เกิดลาภลอย ลาภเสี่ยง และลาภจากการพนัน หรือการกอบโกยลาภจากงานที่ไม่ใช่งานตรงๆ (จากนัยตามการเดินของปู) โดยตั้งไว้ในตำแหน่งโชคลาภ ความมั่งคั่ง และในเซฟ หรือลิ้นชักเก็บเงิน และเมื่อรวมกับจำนวน 3 ที่มีความหมายว่า ได้เกิด จึงเป็นเคล็ดที่ทำให้เกิดโชคลาภอย่างต่อเนื่อง

ฟอสซิลกัลปังหาดำ เป็นสิ่งที่เกิดจากการสะสมทับถมกันของสรรพสิ่งใต้ท้องทะเลลึก ในวิชาฮวงจุ้ยกล่าวว่า น้ำคือเงิน เมื่อมหาสมุทรคือน้ำที่มีขนาดยิ่งใหญ่และมีพลังมหาศาลมากที่สุดในโลกนี้ เท่ากับฟอสซิลนี้ได้ซึมซับสั่งสมพลังแห่งการเงินหรือพลังแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวย
อัญมณี 5 ธาตุ (13 องศา)  เป็นอัญมณีที่เป็นตัวแทนและช่วยดึงดูดพลังแห่งธาตุทั้ง 5 ให้เข้ามาชุมนุมกันในตำแหน่งต่างๆ ที่ต้องการพลัง ต้องการความเป็นมงคล ต้องการความมั่งคั่ง ต้องการแก้ไขความเป็นอัปมงคล สามารถใช้ตั้งได้ในทุกตำแหน่ง ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นยาวิเศษที่ใช้รักษาก็ได้ บำรุงเสริมสร้างก็ได้ทุกๆ ประการ ขึ้นอยู่กับจัดเรียงสีของอัญมณี

สำหรับผู้ที่กำลังก่อร่างสร้างตัวสามารถใช้ เคล็ดพื้นฐานในเซฟ ดังนี้  ก้อนทองเคล็ด 9 ก้อน เหรียญจีน 8 เหรียญ เหรียญจีน 3 เหรียญผูกด้ายแดง ใส่ซองแดงพร้อมธนบัตรใหม่ๆ จากธนาคาร 3 ใบ หรือ 9 ใบ หรือจำนวนเท่าของ 9 ยิ่งเป็นเลขเรียงได้ยิ่งดี หมายถึงเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป




แหล่งข้อมูล :
 อาร์วายทีไนน์

ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่5 (ตู้เซฟเก็บความลับ)



ตู้เซฟเก็บความลับ
หากคุณกำลังมีของสำคัญ คุณย่อมต้องรักและหวงแหน ถ้าเป็นเงิน เป็นเพชร เป็นทองคุณก็เอาไปฝากธนาคารตามประสาคนมีกะตังค์ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีติดบ้านเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็น ฉุกเฉินกันอยู่บ้างใช่ไหมค่ะ วิธีเดียวที่คุณจะเก็บของสำคัญได้ก็คือ เก็บไว้ในตู้เซฟ แต่การจะเลือกตู้เซฟเป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆๆ เลยละค่ะ ดังนั้นเราควรจะต้องมีหลักการและวิธีการที่จะเลือกซื้อตู้เซฟที่เหมาะสมและคู่ควรกับการเก็บสิ่งของมีค่าของคุณ
การเก็บรักษาพาสปอร์ต สูติบัตร โฉนด การ์ด เงินสด และกุญแจต่างๆ ในตู้เซฟทำให้เราสามารถหาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ง่ายดายขึ้น ซึ่งป้องกันการโจรกรรมได้สำหรับคุณที่มีความกังวลเกี่ยวกับโจรที่ขโมย ตู้เซฟสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการเก็บรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณให้กับคุณตลอดไป ปราศจากความกังวลและสนุกสนานไปกับการใช้ชีวิตได้ ทั้งนี้ตู้เซฟยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเก็บรักษาสิ่งที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ (ไดอารี่ จดหมายเก่าๆ เครื่องประดับทรงคุณค่า) และเป็นที่ซ่อนที่วิเศษสุดสำหรับสิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่าจนไม่สามารถประเมินค่าได้ เช่น งานที่คุณทำในช่วงหลายเดือนนี้ที่เก็บในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของคุณ

หากคุณต้องการเลือกซื้อตู้เซฟควรมีหลักการพิจารณาดังนี้ค่ะ
1. ต้องทราบวัตถุประสงค์ในการใช้งานสินค้าก่อน ว่าจะนำไปเก็บสิ่งใด เนื่องจากสินค้าประเภทตู้เซฟนั้นมีอยู่หลากหลายแบบ เช่น เก็บรักษาทรัพย์สินมีค่า เก็บรักษาเอกสาร เก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
2. ต้องทราบว่าจะเก็บทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน เหตุที่ต้องคำนึงเนื่องจากตู้เซฟในหลายๆรุ่นจะมีขนาดภายในต่างๆกัน มีชั้นวางของต่างๆกัน ในบางครั้งหากสั่งซื้อไปแล้วเกิดขนาดเล็กไปอาจจะไม่ได้ผิดเผื่อรองรับทรัพย์สินในอนาคตอาจจะทำให้ท่านเสียค่าใช้จ่ายในการจัดหาตู้เซฟใบใหม่อีกก็สิ้นเปลืองอีกค่ะ
3. ต้องทราบตำแหน่งในการวางสินค้าภายในสถานที่ที่ต้องการใช้งานด้วย ตู้เซฟยี่ห้อบางยี่ห้อมีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เยอะ หากไม่ได้ปรึกษาทางทีมงานฝ่ายขายก่อนสั่งซื้อท่านอาจจะนำตู้เซฟไปวางไว้บนชั้นต่างๆที่ต้องการไม่ได้ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงโครงสร้างของอาคารที่จะวางตู้เซฟ หรือคำนึงถึงวิธีการนำเซฟขึ้นไป หากเป็นลิฟท์ก็ต้องมีการปรึกษาผู้รับผิดชอบลิฟท์ก่อน
4. ต้องการระบบความปลอดภัยในการใช้งานมากน้อยแค่ไหน สินค้าบางตัวออกแบบมามีระบบกันเจาะ บางรุ่นมีระบบกันไฟ หรือบางรุ่นมีทั้งกันเจาะและกันไฟ หรืออาจจะเป็นระบบอิเล็คทรอนิกส์ และในบางรุ่นก็จะมีระบบเปิดอัตโนมัติ Time Lock ซึ่งจะต้องลองสอบถามทางฝ่ายขายก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ในส่วนที่เกี่ยวกับบานพับ ควรเลือกหาตู้เซฟที่มีเดือยยื่นออกทั้งสองด้าน กล่าวคือเมื่อปิดฝาตู้เซฟ จะมีเหล็กให้บิดเพื่อปล่อยเดือยหรือสลัก ต้องเลือกตู้เซฟที่มีเดือยยื่นออกจากฝาตู้ทั้งสองด้าน คือยื่นออกทางด้านบานพับด้วย ถ้าเป็นตู้เซฟชนิดเดือยหรือสลักยื่นออกมาทั้ง Fire Safe จะทนไฟได้นานหน่อยแต่สามารถทําลายตู้และล๊อกได้ไม่ยาก นํ้าหนักก็จะไม่หนักมากเท่าไหร่ ถ้าจุดประสงค์คือกันขโมยควรใช้ Burglar Safe ที่จะทําจากวัสดุที่หนาและทนทานกว่าและนํ้าหนักก็จะมากกว่า Fire Safe ที่ขนาดตู้เท่ากันถึง 2 เท่า ซึ่งจะทําให้ยกยากขึ้น


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่4 (ไอเดียการใช้สีในงานเฟอร์นิเจอร์เหล็ก)



ไอเดียการใช้สีในงานเฟอร์นิเจอร์เหล็ก
          การทำสีและพื้นผิวมีผลมากกับสไตล์เฟอร์นิเจอร์ดังนั้นเราจึงมีหลักง่ายๆในการเลือกสีและพื้นผิวให้เข้ากับสไตล์มาฝาก
1 สไตล์ วินเทล
          เน้น สีขาว หรือสีโทนพลาสเทลที่ผสมสีขาวเข้าไปเพื่อลดความฉูดฉาด และเนื่องจากสไตล์นี้นิยมงานไม้ เหล็ก เก่าๆจึงอาจสร้างพื้นผิวแบบแตกลายงาได้ด้วยสีสร้างพื้นผิวพิเศษที่มีทั้ง ชนิดทาและพ่น  
2 สไตล์ คลาสสิก
          เน้น สีทอง ทองแดง ทองเหลือง  และอาจตกแต่งเพิ่มด้วยสีสนิม งานรมดำ ด้วยการใช้แปรงจุ่มสีและเช็ดด้วยผ้าออกเหลือไว้บนแปรงน้อยๆมากๆ แล้วค่อยปัดสีแห้งให้เกิดเป็นรอยขีดข่วนให้ดูเก่าคลาสสิก
3 สไตล์ โมเดิร์น 
          เน้นสีสดใส แม่สีอย่าง น้ำเงิน เหลือง แดง ขาว  และ ดำ  รวมทั้งสีโครเมียมของเหล็ก ทั้งเงาและด้าน
4 สไตล์ ออเรียนทัล
          เน้น ความเป็นธรรมชาติ โครงเป็นเหล็กแต่ส่วนอื่นๆอาจเป็นหวาย เชือกถัก จึงควรทาสีเหล็กด้วยน้ำตาลเข้ม ดำ ให้ดูกลมกลืนกับวัสดุธรรมชาติที่ตกแต่ง 

ขั้นตอนการขัดสีสนิมหากสนิมมีมากและไม่ยากให้เกิดขึ้นอีก แนะนำให้ใช้น้ำยากัดและกันสนิมทาก่อรขัดจะทำให้สนิมออกง่ายโดยไม่ต้องขัดแรง จากนั้นก็ค่อยทาสีรองพื้นกันสนิมก่อนทาสีจริงตามขั้นตอนปกติส่วนที่เป็นโลหะแนะน้ำให้ทาด้วยสีน้ำมัน หรือพ่นด้วยสีสเปร์ย  สำหรับส่วนที่เป็นไม้สามารถทาด้วยสีพลาสสิกได้อีกด้วย



ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่3 (ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้)



ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้
เฟอร์นิเจอร์ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดมาและสามารถเข้ากันได้ดีกับบ้านในทุกรูปแบบ
เฟอร์นิเจอร์นอกจากจะถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยแล้ว ในปัจจุบันยังปรับรูปแบบให้ใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสำนักงานอีกด้วย วัสดุที่นำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์นั้นมีมากมายหลายชนิด ทั้งไม้ ปูน/คอนกรีต พลาสติก วัสดุสังเคราะห์และโลหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม้ ซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ จะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ สวยงาม มีความทนทานใช้งานได้นานนับร้อยปี เข้ากันได้กับการตกแต่งบ้านทุกแบบทุกสไตล์ โดยมีไม้หลายชนิดที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้รัง ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบก ไม้ชัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ และไม้ยาง เป็นต้น
ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ไม้อีกประการหนึ่งคือทำความสะอาดได้ง่าย ทนร้อนและเย็นได้ดี ทนสารเคมีได้ดีเช่นกัน
เฟอร์นิเจอร์ที่นิยมทำจากไม้ เช่น โต๊ะกินข้าว โต๊ะนั่งเล่น ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน เก้าอี้ ชั้นวางของ เคาร์เตอร์ และโครงโซฟา เป็นต้น