ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่14 (การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน)


การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
         การออกแบบ การวางแผนผังพื้นที่สำนักงานที่ดีเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับบุคลากร และแบ่งโซนตามความสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงานช่วยเพิ่มระบบการทำงานภายในองค์กรดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและไม่วกวน เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน และสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ยังต้องจัดกลุ่มเครื่องใช้สำนักงานให้ความสะดวก ต่อการควบคุมงานระบบต่างๆ เช่นการเดินสายไฟปรับอากาศ โต๊ะเก้าอี้ ตู้เก็บอุปกรณ์ ชั้นวางของ เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ และความจำเป็นอย่างมาก ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวก แต่ยังเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กรได้อีกด้วย การเลือกซื้อควรคำนึงถึงการใช้งานหากมีความต้องการใช้มากหรือซื้อปริมาณเยอะๆ จะช่วยประหยัดงบของบริษัทไปได้มาก
การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนั
ภาพ : ntp-furniture.com
การจัดผังและมีบรรยากาศที่ดีแล้วยังช่วยให้บุคลากรมีสุขภาพและจิตใจที่ดีเกิดเป็นภาพรวมของความสุขภายในสังคมที่ทำงานได้เพิ่มมากขึ้น ควรแยกพื้นที่ ส่วนต้อนรับ ส่วนทำงาน ส่วนประชุม และส่วนบริการต่างๆ โดยการจัดสรรพื้นที่และระดับความสำคัญในแต่ละส่วนออกไปตามประเภท และลักษณะของธุรกิจนั้นๆ ธุรกิจบางประเภทเน้นการพบปะกับลูกค้า มีการนำเสนองานอยู่บ่อยครั้ง อาจมีความจำเป็นมากในการใช้งานห้องประชุม จึงควรมีพื้นที่ห้องประชุมขนาดเล็ก-ใหญ่  หรือ ธุรกิจขายตรงที่ไม่เน้นการประชุมภายใน แต่เน้นการออกไปพบปะกับลูกค้าภายนอกอยู่บ่อยๆ จึงอาจใช้ห้องประชุม แค่ประชุมภายในองค์กรเท่านั้น  
ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ควรเป็นตามลักษณะของชุดโต๊ะทำงาน อาจมีลักษณะการจัดแบบกลุ่มก้อนหรือคล้ายกัน แต่มีการกระจายแยกโดยไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัว ควรคำนึงถึงอุปกรณ์สำนักงานที่มีการใช้ไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง เช่น คอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ หรือ อุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ควรวางในตำแหน่งที่ชัดเจน เพราะบางสำนักงานอาจจำเป็นต้องใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ร่วมกัน การจัดควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานที่เน้นความสะดวกและปลอดภัยเป็นหลัก
นอกจากการคำนึงถึงความงามของเฟอร์นิเจอร์แล้ว ความสะดวกใช้งานได้จริง เช่นตำแหน่ง การวางจอคอมพิวเตอร์ หากอยู่มนบริเวณที่แสงส่องสะท้อนมาที่จอคอม จะเกิดเงาสะท้อน ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพตา การออกแบบห้องประชุม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดพื้นที่สำนักงาน การจัดเตรียมที่นั่ง อาจมีจำนวนที่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเจ้าของธุรกิจ และความต้องการพื้นฐานและพฤติกรรมของผู้ใช้งานทุกคน บางสำนักงานยังใช้เป็นที่เสนองานลูกค้า จัดสัมมนา ควรคำนึงถึงอุปกรณ์ภายในและระบบไฟฟ้า เครื่องใช้ โต๊ะเก้าอี้สำนักงาน เพื่อสะดวกต่อการใช้งานและเน้นความปลอดภัยในการจัดวาง ให้เหมาะสมและเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากการเลือกวัสดุและการใช้สีสันต่างๆ ยังสามารถแสดงถึงภาพลักษณ์ของบริษัทได้อย่างชัดเจน



ข้อมูล : 
http://hmgroupthailand.com/category/work-station-storage/

ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่13 (100 เทคนิคเคล็ดลับ ดูแล เฟอร์นิเจอร์ )


100 เทคนิคเคล็ดลับ ดูแล เฟอร์นิเจอร์ 


1. โรงรถมี กลิ่นอับ มาก จะขจัดกลิ่นออกได้โดยโรยหญ้าที่เพิ่งตัดมาใหม่ ๆ ลงบนพื้น โรงรถ แล้วปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ต้นหญ้าจะดูดเอากลิ่นอับในโรงรถออกไปจนหมด

2. ถ้าต้องกา รอบผ้า 2-3 ชิ้นให้แห้งเร็วขึ้นทำได้โดยหา ผ้าขนหนู สะอาด ๆ ใส่ลงไปในเครื่องด้วยเพราะผ้าขนหนูจะไปช่วย ดูดซับ ความชื้น ทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอีก

3. วิธีทำให้ กรอบกระจกเงา หรือ กรอบกระจก รูปภาพ มองดูใหม่เสมอ ทำได้โดยการใช้ผ้าชุบ น้ำมันสน แล้วทาบริเวณกรอบไม้ รอจนแห้งสนิท กรอบจะมองดูใหม่ทันที

4. วิธีล้างคราบสกปรกที่ แก้วเจียระไน ทำง่าย ๆ คือหา เปลือกฝรั่ง ใส่ลงไปในแก้วเจียระไน แช่ทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้แก้วจะดูใสสะอาด

5. วิธีทำความสะอาด เครื่องเคลือบ ที่ทำด้วย ทองเหลือง มีวิธีการทำง่ายๆ คือนำเอา หัวหอม มาต้มในน้ำเดือด แล้วนำมาขัดลงบนเครื่องเคลือบเพียงเท่านี้ เครื่องเคลือบ จะมองดู ใหม่สะอาดหมดจดทีเดียว

6. วิธีการ ขจัด คราบไขมัน ที่ติดรอบท่อ อ่างล้างจาน ซึ่งถ้าปล่อยไว้นาน ๆ จะเป็นเหตุให้ ท่ออุดตัน ได้ มีวิธีทำคือ นำ เกลือแกง ใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำ เบกกิ้งโซดา หรือ ผงฟู ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงไป ไขมัน ที่ อุดตัน ก็จะหลุดออกไปหมด

7. วิธีขจัดพวก มด แมลง มาขึ้นถังขยะทำได้ง่ายๆ โดยหยด แอมโมเนีย ลงข้างๆ ถังขยะ สักเล็กน้อย กลิ่น แอมโมเนีย จะทำให้ มด แมลง ไม่กล้าเข้ามาใกล้ถังขยะอีก

8. การรักษา เครื่องมือทำสวน ที่เป็นโลหะไม่ให้ ผุกร่อน ได้ง่ายมี วิธีการรักษา โดยใช้ วาสลิน ทาผิวของโลหะทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จแล้ว และนำมาทำความสะอาดอีกครั้ง

9. การใช้ เตาแก๊ส แบบประหยัด ทำได้โดยปรับ เปลวไฟ ให้เป็น สีน้ำเงิน เสมอ และไม่ควรเปิดไฟ แก๊ส ให้สูงกว่าก้นหม้อด้วยจะทำให้หม้อร้อนช้า ควรปรับระดับให้พอดีกับก้นหม้อ

10. วิธีดับ กลิ่นเหม็น ใน ถังขยะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหรือในบ้านให้หมดกลิ่นได้ทำได้โดยใส่ เปลือกมะนาว หรือเปลือกส้ม เขียวหวาน ส้มโอ ก็ได้ใส่ลงไปใน ถังขยะ กลิ่นส้ม จะไปลด กลิ่น ลงทำให้มีกลิ่นน้อยลง

11. การ ขัด รอยแมลงวัน บนกระจกมีเคล็บลัดคือ ใช้ผง กาแฟคั่ว หนึ่งช้อนผสมกับ น้ำมันก๊าด หนึ่งลิตร และใช้เศษผ้าชุบเช็ด กระจก รอยแมลงวัน ก็จะหมดไป

12. หากต้องการ ทาสีห้องใหม่ แต่กลัวว่าห้องจะมีแต่กลิ่นเหม็นของสี อยู่หลายวันมี วิธีขจัดกลิ่นเหม็น ของ สี คือก่อนจะ ทาสี ให้ผสมน้ำ วานิลลา 1 ช้อนชาต่อสี 1 แกลลอน คนให้เข้ากันแล้ว จึงนำไปทาห้อง สีที่ ทาใหม่จะ ไม่มีกลิ่นเหม็น เป็นเด็ดขาด

13. วิธีการป้องกัน ไม่ให้ถุงใน เครื่องดูดฝุ่น โดนแมลงกัดเป็นรูคือ นำ การบูร หรือ ลูกเหม็น ใส่เข้าไปใน ถุงดูดฝุ่น สัก 1 ก้อน นอกจากป้องกัน แมลง แล้วยังป้องกัน กลิ่นอับ อีกด้วย

14. แก้ปัญหา ยุง ไปไข่ทิ้งไว้ในแท็งก์น้ำ ทำให้มี ลูกน้ำ ว่ายวนอยู่ในแท็งมีวิธีทำคือ นำ อิฐแดง ๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างมาเผาไฟให้ร้อน ๆ แล้วเอาใส่ลงไปในแท็งก์น้ำทันที เพียงเท่านี้ยุงจะไม่กล้าเข้าไปไข่ทิ้งไว้อีกเลย

15. วิธีกำจัด ต้นหญ้า ที่ขึ้นไม่ถูกที่ ทำได้โดยใช้ เกลือ โรยตรงส่วนที่ต้นหญ้าขึ้น เหตุเพราะเกลือจะไปทำให้ดินตรงที่ต้นหญ้าขึ้นอยู่เค็มจึงทำให้ต้นหญ้าตายในที่สุด

16. น้ำประปา ที่มี กลิ่น คลอรีน แรงมากมี วิธีกำจัดกลิ่น ให้หมดไปโดยฝานมะนาวบางๆ ลงไปในน้ำ มะนาวจะช่วยดูดกลิ่น คลอรีน ให้หมดไป และทำให้น้ำดื่มได้อีกด้วย

17. ขอบยางประตูตู้เย็น มี รา ขึ้น จะมีวิธีลบราออกได้โดยใช้ผ้าชุบ น้ำส้มสายชู แล้วนำ ไปถูตรง ขอบยางประตู ตู้เย็น ที่เป็นรา ราก็ออกไปได้โดยง่ายดาย

18. ขจัดปัญหา หมา แมว ฉี่และอุจจาระไม่เลือกที่ทำได้โดยการโรย พริกไทยป่น ลงไป บนที่มันเคย ฉี่ หรือ อุจจาระ ไว้ เพียงเท่านี้หมา แมวก็จะดมกลิ่นหาที่ที่มันเคยฉี่และ อุจจาระไม่เจอ เหตุเพราะ พริกไทย ป่นจะไปดับกลิ่นหมด ทางที่ดีควรสอนให้มันฉี่และอุจจาระ ในห้องน้ำ หรือบนกระดาษที่เราควรจะวางไว้ให้จนเคยชิน

19. การรักษา ไม้กวาดดอกหญ้า ที่ซื้อมาใหม่ให้ใช้ไปได้นาน ๆ ทำได้โดยการจุ่ม ไม้กวาด ดอกหญ้า ใน น้ำเกลือ ร้อนๆ ขนของไม้กวาดจะเกาะตัวกันเวลาใช้จะทนทานไม่ขาดง่าย

20. ตะปู ที่ตอกไว้ข้างฝาคอนกรีตสำหรับแขวนรูปหลวม มีวิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ใช้ สำลี พันตะปูชุบ กาว และตอกเข้าไปใหม่ กาวที่สำลีจะยึดติดกันแน่น

21. วิธีการขจัด กลิ่นเหม็นสาป ที่ติดอยู่ในกระติกน้ำแข็งทำได้โดยนำ เบกกิ้งโซดา มาผสม กับ น้ำร้อน และนำมาล้างถูกระติกน้ำให้ทั่ว แล้วล้างน้ำอีกครั้ง กลิ่นสาป ก็จะหายไป

22. วิธีการเก็บ สายยาง ที่ยาว ไว้โดยไม่เปลืองเนื้อที่ ทำได้โดยม้วนสอดเข้าไปใน ยางรถยนต์ อันที่ไม่ใช้แล้ว เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

23. ขจัดปัญหา กลิ่นส้วม เหม็นคละคลุ้งไปทั่วบ้านคือใช้น้ำมันก๊าด ประมาณ 1 ขวดใหญ่ มาเทราดลงไปในคอห่านแล้วเทน้ำตามลงไปเพื่อขจัดกลิ่นน้ำมันก๊าดให้หมด

24. วิธีป้องกันหมาแมวตัวโปรดมากัดแทะ เฟอร์นิเจอร์ ในบ้านคือใช้ น้ำมันยูคาลิปตัส หรือน้ำมันที่มีกลิ่นฉุนทาที่เฟอร์นิเจอร์ กลิ่นฉุนนั้นจะทำให้มันไม่กล้าเข้ามากัดแทะอีก

25. วิธีขจัดรอยเปื้อน ด่างดำบนเครื่องใช้ที่เป็นหนังคือ หยด น้ำมันสลัด สัก2-3 หยด ในน้ำสบู่ แล้วใช้แปรงจุ่มน้ำที่ผสมไว้มาถู จากนั้นจึงซักในน้ำ สบู่ ธรรมดาอีกครั้ง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ต่อด้วยเช็ดให้แห้งผึ่งลมไว้

26. วิธีการดึง สติกเกอร์ ที่ติดอยู่บนฝาห้องออกโดยไม่ทิ้ง คราบกาว ไว้ที่ฝาทำได้โดยใช้ น้ำมันพืช มาทาบน รูปสติกเกอร์ แล้วจึงค่อยๆ ดึงออกมา

27. การใช้ เครื่องซักผ้า แบบประหยัดที่สุดคือในการ ซักผ้า แต่ละครั้งควรจะซักผ้าในปริมาณที่มากที่สุด

28. การทำให้ ตู้เสื้อผ้า ของคุณหอมได้โดยที่ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อมาใส่ เพียงแต่คุณใช้เศษสบู่ที่จะทิ้งแล้วไปวางไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของ ตู้ กลิ่นสบู่นั้นก็จะหอมไปทั่วตู้เลย

29. วิธีทำความสะอาด ภาชนะอลูมิเนียม ให้ใสสะอาดเหมือนใหม่คือนำเอา เปลือกแอปเปิ้ล ต้ม 2-3 นาที แล้วใช้น้ำ ขัด ถู ภาชนะ อะลูมิเนียม ก็จะดูเงาวามเหมือนใหม่

30. วิธีการใช้ เตาอบ ให้ใหม่อยู่เสมอคือ หลังจากใช้เตาอบแล้วควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง และทำใน ขณะที่เตายังอุ่น ๆ อยู่ เพราะจะเช็ดได้ง่ายกว่าในขณะที่เย็นแล้ว

31. วิธีขจัดรอยคราบ เหนียวบนผนังตู้เย็นคือ ใช้ น้ำมันพืช เทลงบนกระดาษเช็ดมือ แล้ว ถูจนสะอาด ทำสัก 2-3 ครั้ง น้ำมันพืชจะไม่ทำลายความเงาของตู้เย็นหรอก

32. วิธีขจัดกลิ่นเหม็น ของท่อระบายน้ำล้างจาน ให้หอมสดชื่นได้คือเท เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย ลงไปในท่อระบายน้ำทิ้งไว้ 5 นาที เทน้ำ ส้มสายชู ตามลงไปอีก 1 ถ้วย จะขจัด กลิ่นเหม็น ได้ดีจริงๆ

33. ในการใช้ยาขัดเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรใช้ประเภท เช่น น้ำมัน ขี้ผึ้ง บ่อย ๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายได้ง่าย

34. ใน การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ที่เป็น ผ้าฝ้าย ให้ใช้ แปรงทาสี ด้ามใหม่ปัดตาม ซอกมุมเฟอร์นิเจอร์ไปพร้อมกันกับการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง

35. การทำความสะอาด ในซอกเล็กซอกน้อยของโคมไฟ ให้ใช้ เครื่องเป่าผม เป่าลมไปตาม ที่มีฝุ่นละอองจับแล้วเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอีกครั้ง โคมไฟก็จะดูใหม่เสมอ

36. วิธีลบคราบดวงๆ ที่ติดบนเฟอร์นิเจอร์คือ ให้ใช้ จุกไม้ก๊อก ถู ถ้าไม่ออกให้ใช้นิ้วมือแตะ ยาสีฟัน ผสมขี้เถ้าบูหรี่ถูอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อนซ้ำอีกครั้ง

37. การทำความสะอาด พื้นกระเบื้องยาง คือ ใช้ แปรงสีฟัน ชุบ ยาสีฟัน แล้วนำไปขัดถูบริเวณรอยเปื้อนให้แรงๆ จะทำให้ รอยเปื้อน หลุดออกไปได้โดยง่าย

38. วิธีการตอกฝาผนัง ตะปู โดยไม่ให้งอคือ ให้ทาปลายตะปูด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำมันพืช ก่อนที่จะนำมาตอกฝาผนังจะตอกได้คล่องและไม่งอจริงๆ

39. วิธีการทาสีกำแพง ให้ติดอยู่ได้ ทนนาน คือ ก่อนที่จะ ทาสี กำแพงให้ล้างกำแพงให้สะอาด ด้วย น้ำมันสน เพื่อขจัดคราบสกปรกและสีที่ทาจะติดทนนานไม่ร่อนออกง่าย

40. วิธีแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม้โป่ง ออกมาคือ ให้วางผ้าชื้น ๆ ลงบนรอยที่โป่ง ใช้ เตารีด ร้อน ๆ ทับบนผ้า จะทำให้คืนสู่สภาพเดิม

41. วิธีขจัดรอยขีดข่วน บน เฟอร์นิเจอร์ไม้ คือ ให้ใช้ผ้าแตะยาขัดรองเท้าที่สีเดียวกับไม้ แล้วถูตรงรอยแล้ว ใช้ผ้าขัดต่ออีกครั้ง รอยขีดข่วน ก็จะหายไป

42. วิธีการแก้ปัญหา เก้าอี้หวาย หย่อนคือ ถ้าอยากให้ตึงให้ล้างเก้าอี้หวายด้วย น้ำสบู่ ร้อนๆ แล้วล้างน้ำสบู่ออก นำออกตากแดดกลางแจ้งให้แห้ง หวาย ที่หย่อนจะตึงเหมือนเดิม

43. วิธีการทำความสะอาด พื้นบ้านไม้ให้เงางามอยู่เสมอคือ ให้ผสม น้ำส้มสายชู ครึ่งถ้วยต่อน้ำ 8 ลิตร จะช่วยขจัดเศษ ฝุ่นละออง และพื้นก็เป็นเงางามอีกด้วย

44. การรักษา เฟอร์นิเจอร์โลหะ ไม่ให้เป็น สนิม ได้ง่ายคือให้ เคลือบ โลหะ ด้วย ขี้ผึ้งขัดรถ เมื่อจำเป็นต้องเอาเฟอร์นิเจอร์โลหะไว้ตากน้ำค้าง จะได้ไม่ขึ้นสนิมได้ง่าย

45. วิธีการติดรูป โปสเตอร์บนกำแพงโดยไร้ร่องรอยเมื่อดึงภาพออกคือให้ใช้ ยาสีฟัน แทนกาวในณะที่ติดรูป เมื่อถึงเวลาดึงรูปออก ก็เพียงแค่ขัดยาสีฟันที่แห้งออกเท่านั้น ฝาผนังก็สะอาดแล้ว

46. ถ้าบังเอิญต้อง จัดงานเลี้ยง ที่มี ฟลอร์เต้นรำ แบบกะทันหัน ทำได้โดยโรย แป้งผง สำหรับ โรยตัวให้ทั่วก็จะแก้ขัดไปได้ด้วยดีทีเดียว

47. วิธีแก้ปัญหา หน้าต่าง ปิดและเปิดออกได้ยากคือ ให้เอา น้ำมันเครื่อง หยอดตรง รางอลูมิเนียม ให้ทั่วเพียงเท่านี้ก็จะทำให้เปิดและปิด ได้ง่ายขึ้นกว่าเก่า

48. วิธีป้องกันไม่ให้ มด ขึ้น ตู้กับข้าว คือ ใช้เศษผ้าหรือเชือกที่เป็นผ้าไปชุบน้ำมันเครื่อง แล้วบิดพอหมาด นำไปผูกไว้ที่ขาตู้กับข้าวทั้งสี่ขา มดก็จะไม่กล้าขึ้นแน่นอน

49. วิธีการไล่ยุง แบบง่าย ๆ คือ หา การบูร มาห่อด้วยผ้าแล้วมัดไว้กับหลอดไฟฟ้าที่อยู่ภายใน บ้าน ความร้อนของไฟฟ้าจะทำให้การบูร ระเหย ออกไป และกลิ่นของการบูรจะช่วย ป้องกันยุง ไม่ให้มารบกวน

50. วิธีการไล่หนู แบบง่ายๆ และประหยัดเงินคือ นำ ไม้ยี่โถ ไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปบดเป็นผง เสร็จแล้วนำไปโรยตามซอกที่หนูชอบอยู่ เพียงเท่านี้หนูก็พากันขนย้ายครอบครัวหนีออกไปจากบ้านของคุณไปเลย

51. วิธีการกำจัดปลวก ที่ขึ้นบ้านแบบประหยัดคือนำ น้ำมันเครื่อง ที่ใช้แล้วมาราดให้รอบ บริเวณบ้าน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถไล่ปลวกไม่ให้มารบกวนบ้านอีกต่อไป

52. การขัดพื้นกระดาน ให้เงาแบบโบราณคือ หา มะพร้าว มาผ่าครึ่ง ทุบกะลาตรงปากออก สักเล็กน้อย แล้วนำมาคว่ำลงกับพื้นกระดานขัดถูพื้นบ่อยๆ พื้นกระดาน จะมองดูเงางามเชียวแหละ

53. โฟม สามารถใช้เป็นประโยชน์ได้หลายอย่างเช่น ใช้ทำเป็นกาว อุดรอยรั่ว ของภาชนะได้เป็นอย่างดีคือ ก่อนนำมาใช้จะต้องเอาเศษโฟมหักเป็นชิ้นเล็ก แช่ น้ำมันทินเนอร์ ให้ละลาย เหนียวข้นแล้วนำไปอุดรอยรั่วปล่อยให้แห้ง ก็จะสามารถใช้ต่อไปได้อีกเป็นระยะเวลา ยาวนาน

54. วิธีการปรับ เสาทีวี ในบ้านด้วยตัวเองทำได้ง่ายๆ คือ หา กระดาษตะกั่ว หรือหา กระดาษฟอยล์ ที่ห่อปลาเผามาพันรอบๆ สายอากาศ ด้านหลังทีวีหลายๆ รอบ แล้วค่อยๆ รูดไปตามสาย เรื่อยๆ ให้มีคนคอยสังเกตภายในจอทีวีด้วย ถ้าภาพคมชัดก็ให้บีบ กระดาษตะกั่ว นั้นติดอยู่ กับสายตรงนั้นเลย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

55. วิธีขจัดสนิม บน ราวตากผ้า คือ หาเศษผ้ามาชุบน้ำส้มสายชูถูให้ทั่วแล้วใช้น้ำสบู่ถูทับอีกที ต่อ จากนั้นเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ตามด้วยผ้าแห้งอีกรอบหนึ่ง สนิม บน ราวผ้า ก็จะหมดไป

56. การขจัด มีด ในครัวเรือนขึ้นสนิมคือ นำมีดนั้นมาถูกับมะนาวหรือหัวหอมก็ได้ แล้วล้างด้วยน้ำ สะอาดเช็ดให้แห้ง รับรองได้ว่ามีดทำครัวของคุณจะปราศจากสนิมมาขึ้นอีกเลย

57. การลับมีด ในครัวให้มีความ คม และอยู่ได้นานๆ ทำได้โดยหยอด น้ำมันก๊าด สัก 2-3 หยดลงบน หินลับมีด แล้วลับไปตามปกติ รับรองมีดของคุณจะคมกริบเชียวละ

58. วิธีขจัดกลิ่นเหม็น อาหารในตู้เย็นติดน้ำดื่มทำได้โดยนำ กากกาแฟ หรือ กากใบชา ที่ชงหมดแล้ว นำมาใส่ไว้ใน ตู้เย็น กาก กาแฟ หรือกาก ใบชา พวกนี้จะดูดกลิ่นอันไม่พึงปรารถนาให้หมดไปจาก ตู้เย็นของคุณ

59. ผงชันยาเรือ มีประโยชน์ช่วย ป้องกันมด ได้อีกแบบหนึ่งคือ นำ ผงชัน ยาเรือ มาโรยไว้ในขา ตู้กับข้าว เพียงเท่านี้ มด ก็จะไม่มารบกวนขาตู้อีกเลย

60. วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ให้สะอาดทำได้โดยใช้ แอมโมเนีย สัก2 แก้วผสม น้ำเย็น ธรรมดาครึ่งลิตรใส่ลงใน เครื่องซักผ้า แล้วเปิดเครื่องทำงาน น้ำส้มสายชูจะ ช่วยไล่ คราบฝุ่น ออกจากตัวเครื่องและป้องกันการอุดตันได้ด้วย

61. วิธีทำความสะอาด กรอบกระจกเงา หรือ กรอบรูปภาพ ให้มองดูใหม่คือ ให้เอา น้ำมัน ชุบผ้าทาตรงส่วนที่เป็นกรอบ แล้วรอจนแห้งแล้วจะมองดูใหม่ขึ้น

62. วิธีทำความสะอาดเครื่องแก้ว โดยไม่ต้องเช็ดคือ ใช้น้ำผสม แอลกอฮอล์ ล้าง น้ำผสมผสมแอลกอฮอล์จะช่วย ขจัดสิ่งสกปรกออก ได้ง่าย ข้อสำคัญจะแห้งได้เอง โดยไม่ต้องเช็ดด้วยผ้าอีกครั้ง

63. วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอับ ในตู้กับข้าวให้หอมสดชื่นคือ ใช้ ปูนขาว เล็กน้อยใส่ชามใบ ย่อมไปวางมุมใดมุมหนึ่งของตู้กับข้าว ทิ้งไว้ประมาณ3-4วัน กลิ่นอับชื้น ก็จะ ค่อยจางหายไป

64. วิธีทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติด กระเบื้อง ปูห้องน้ำมีวิธีทำคือ ราดด้วยน้ำให้ทั่ว แล้วเอา เกลือแกง โรยลงบนแปรงขัดทั้งห้องน้ำหรืออาจจะโรย เกลือ ที่ผ้าเปียกน้ำ แล้วขัดพื้นให้ทั่ว เพียงเท่านี้ ห้องน้ำกระเบื้องของคุณก็จะสะอาดเป็นเงางาม เลยทีเดียว

65. วิธีการทำความสะอาดผ้าม่าน ที่เป็น ใยสังเคราะห์ ควรซักด้วยมือ ก่อนซักควรปัดฝุ่นให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นเทน้ำยาซักผ้าลงบริเวณที่เปื้อน แล้วจุ่มลงในน้ำยาซักผ้า ที่ผสมน้ำอุ่นแล้วอย่าบิด ควรคลี่ตากเพราะในเวลาแห้งจะได้ ผ้าม่าน ที่เรียบไม่ยับยู่ยี่

66. วิธีทำความสะอาด งาช้าง ที่มีคราบฝุ่นติดอยู่เต็มไปหมดคือ นำมาถูด้วยมะนาวกับ เกลือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่แล้วเอางาช้างวางไว้กลางแดดทั้งๆ ที่ยังเปียกน้ำสบู่อยู่ ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เมื่อแห้งแล้วขัดด้วย ผ้าสักหลาด ก็จะได้ งาช้าง สะอาดดังเดิม

67. วิธีทำความสะอาด คราบเหลือง ที่ติดตาม ภาชนะ เคลือบสีขาวมีวิธีทำคือ ใช้ น้ำมันพาราฟิน ถูรอยสกปรก น้ำมัน พาราฟิน จะช่วย ขจัด คราบสกปรก คราบเหลือง ของ ภาชนะเคลือบขาว ได้

68. วิธีทำความสะอาด คราบดำ ของกาแฟที่ หม้อต้ม คือใช้ ผงซักฟอก ที่ใช้กับ เครื่องซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะใส่น้ำจนเต็มหม้อ แล้วแช่ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงล้างออก

69. วิธีขจัด รอยเปื้อน บน ผ้าปูโต๊ะ ให้สะอาดคือ ให้โรย เกลือป่น ตรงรอยเปื้อน ใช้น้ำ ร้อนราด แล้วนำไปแช่ใน น้ำนมสด ต้มด้วยไฟอ่อนๆแล้วจึงนำไปซักรอยที่เปื้อน

70. วิธีทำความสะอาด โป๊ะไฟ โคมไฟในส่วนที่ทำความสะอาดยากเช่น รอยจีบซอกเล็ก ซอกน้อย ให้ใช้ เครื่องเป่าผม เป่าลมไปตามที่มีฝุ่นละอองจับ แล้วค่อยๆ ใช้ผ้าชุบ น้ำยาล้างจาน เช็ดตามด้วยผ้า สะอาดเช็ดอีกครั้ง เพียงเท่านี้โคมไฟที่ว่าหมองจะ ใหม่สะอาดทันที

71. วิธีทำความสะอาด ผ้าม่านพลาสติก ควรซักด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาซักผ้าที่ผสม น้ำอุ่น แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้ ตากลม ดีกว่า ตากแดด เพราะจะไม่ทำให้ผ้าม่านสี จืดจางลงไป

72. วิธีการทำความสะอาดกระจกเงา ส่องหน้าให้ใสคือ นำยาสีฟัน มาบีบใส่ไว้บน กระจก แล้วหาผ้าชุบน้ำมา เช็ดยาสีฟันที่บีบทิ้งไว้บนกระจก โดยถูให้ทั่วๆ กระจก แล้วใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง กระจกเงา ที่หมอง จะดูเงางาม เป็นประกายทันที

73. วิธีทำความสะอาดคราบน้ำมัน บน พื้นปูนซีเมนต์ ให้สะอาดเอี่ยมคือหา ขี้เถ้า ที่อยู่ใน เตาถ่าน มาโรยไว้บน คราบน้ำมัน ที่เปื้อนพื้นปูนซีเมนต์ให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ล้างออก ด้วยน้ำให้สะอาด ขี้เถ้าก็จะดูดคราบน้ำมันออกไปจนหมดเกลี้ยง

74. วิธีทำความสะอาดรอยดินสอหรือดินสอเทียนที่ติดบน วอลล์เปเปอร์ คือ ให้ใช้ เครื่องเป่าผมโดยใช้ลมร้อนจี้ตรงบริเวณนั้น แล้วหาผ้าฝ้ายชุบน้ำสบู่บิดให้ หมาด นำมาเช็ดถูตรงรอยเปื้อน รอยของสีนั้นก็จะจางหายไป

75. วิธีทำความสะอาด คราบตะกอน ที่ติด ฝักบัวอาบ น้ำคือ สำหรับแบบที่ไม่สามารถ ถอดออกได้ ให้หาถุงพลาสติกใส่น้ำส้มสายชูพอประมาณ เอา ฝักบัว ใส่ในถุงน้ำส้มสายชู แล้วผูกถุงให้แน่น ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน นำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด หัวฝักบัว ก็จะสะอาดและปราศจาก คราบของตะกอน ทำให้น้ำไหลสะดวกขึ้น

76. วิธีทำความสะอาด สี ที่เปื้อนหน้าต่างผลมาจากการทาบ้าน ให้ใช้น้ำส้มสายชูผสม น้ำเปล่า อัตราส่วน 2 : 1 ตั้งไฟให้ร้อนจัด ใช้ แปรงทาสี ที่สะอาดจุ่มส่วนผสมที่ยังร้อนอยู่ถูตรงบริเวณรอยเปื้อน รอยเปื้อน ดังกล่าวจะหลุดออกได้เอง

77. วิธีทำความสะอาดฝุ่นผงออกจาก หมอนอิง ใช้เครื่องอบผ้า ก็ได้ โดยตั้งไว้ที่ อุณหภูมิต่ำ ๆ แล้วใส่ ผ้าขนหนู ชุบน้ำบิดพอหมาดลงไปด้วย

78. วิธีทำความสะอาดพื้น ที่ทำด้วย ไวนิล ให้สะอาดหมดจดมีวิธีทำง่ายๆ คือ นำน้ำอุ่น ผสมกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แล้วนำมาล้าง พื้นไวนีล เช็ดให้แห้ง พื้น ก็จะสะอาดสดใสทีเดียว

79. วิธีทำความสะอาดคราบน้ำมัน ที่ติดอยู่บน วอลล์เปเปอร์ ใช้ แป้งฝุ่น ผสม น้ำยาทำความสะอาด แล้วนำมาป้ายตรงจุดที่สกปรก ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดออก คราบน้ำมัน ก็จะติดออกมาด้วย

80. วิธีทำความสะอาดพรม ที่ เปื้อนคราบน้ำมัน ให้เท เบกกิ้งโซดา ลงตรงบริเวณที่ เปื้อน คราบน้ำมัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรง รอยเปื้อนน้ำมัน นั้น คราบ ก็จะจางหายไป

81. วิธีทำความสะอาดคราบสกปรกที่เปื้อน กระเบื้องเคลือบ ให้ใช้ส่วนผสมของ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และ ครีมออฟทาร์ทาร์ อย่างละเท่ากัน ทาให้ทั่วแล้วล้าง ออกตามปกติ จะทำให้คราบสกปรกนั้นหายไป

82. วิธีทำความสะอาดคราบสนิม ออกจาก ถัง ทำได้โดยใช้น้ำมะนาวใส่ลงไปในบริเวณ ที่เป็นสนิม ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างออกคราบสนิมก็จะหลุดออกไปด้วย

83. วิธีทำความสะอาด พื้นโรงรถ ที่ เปื้อนน้ำมันเครื่อง ให้โรยด้วย ทราย ทิ้งไว้ 1 คืน กวาด ทรายออกไป คราบน้ำมัน ก็จะหลุดออกไปด้วยกับทรายนั่นเอง

84. วิธีทำความสะอาด หน้าต่างกระจก ให้ใสสะอาด ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชู 1 : 2 ส่วน แล้วนำไปใส่ใน ขวดสเปรย์ นำไปฉีดบน หน้าต่าง กระจก แล้วใช้ กระดาษหนังสือพิมพ์ เช็ดอีกที หน้าต่างกระจก จะใสจริง ๆ

85. วิธีทำความสะอาด เปียโน ควรใช้ แวกซี่ ทำความสะอาดดีที่สุดเพราะสารทำความสะอาด อย่างอื่นอาจจะทำให้ไม้โค้งงอได้

86. วิธีทำความสะอาด เครื่อง ถ้วยชามคริสตัล ให้ดูเป็นประกายเงางาม ให้ใช้ ผ้าหนังสัตว์ เช็ด ผ้าผนังสัตว์ จะกำจัดฝุ่นผง และคราบน้ำออกได้ง่ายกว่าผ้าชนิดอื่นๆ

87. วิธีทำความสะอาด คราบเทียนไข ที่ติดแน่นออกจาก เชิงเทียน มีวิธีทำง่ายๆ คือ ใส่ เชิงเทียน ในช่องแช่แข็งทิ้งไว้สักครู่ จะสามารถเอา คราบเทียน ออกได้ง่ายและหมดจดทีเดียว

88. วิธีทำความสะอาด ทัปเปอร์แวร์ ให้หมดกลิ่นอับคือ ให้ผสม วานิลลาสกัด 2 ช้อนโต๊ะกับ น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดให้ทั่ว กลิ่นอับ ต่างๆ จะจางหายไป

89. วิธีทำความสะอาด คราบตะกอน ที่ติดอยู่ใน แจกันดอกไม้ ให้ออกได้โดยง่ายคือ ใช้เม็ดทำความสะอาดฟันปลอม ใส่ไว้ในแจกันโดยให้มีน้ำติดอยู่นิดหน่อย เพื่อที่จะ ทำให้เกิด ฟองฟู่ แล้วดึงเอา ตะกอน ออกมา

90. วิธีทำความสะอาดผ้าม่าน ทำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายที่ติดมากับผ้า ม่าน แล้วจุ่มลงไปในอ่างน้ำอุ่นที่ผสมกับเกลือ 1 ถ้วย แล้วแขวน ผ้าม่าน ให้แห้ง โดยแผ่ให้หมดเนื้อผ้า จะทำให้ผ้าม่านสะอาดและไม่ยับอีกด้วย

91. วิธีการทำความสะอาดตู้ปลา หรือ อ่างปลา ใช้ฟองน้ำชุบ เกลือป่น เช็ดถูให้ทั่ว เพราะ เกลือ จะช่วย ฆ่าเชื้อโรค ที่ติดอยู่ในตู้หรืออ่างปลา และทำให้ ตู้ปลา สะอาดหมดจด อีกด้วย

92. วิธีการทำความสะอาด คราบไขมัน ที่เปรอะเปื้อน จาน ชาม หม้อ และภาชนะในครัว ให้ ล้างด้วยน้ำอุ่นกับ น้ำยาล้างจาน จะทำให้การล้างเป็นไปได้ง่ายขึ้น

93. วิธีการทำความสะอาด กรอบรูปที่ปิดทอง ควรใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นให้ออกก็พอแล้ว เพราะ ถ้าใช้ผ้าชุบน้ำจะทำให้ทองที่ปิดอยู่ลอกออกหมด

94. วิธีทำความสะอาด คราบรา ที่ติดอยู่บน หนังสัตว์ ที่ประดับตกแต่งบ้านเรือน ให้ใช้ผ้านุ่มๆ จุ่ม แอลกอฮอลล์ ผสมน้ำเช็ดให้ทั่วแล้วตากไว้ในที่ร่ม รอยเปื้อนคราบนหนังสัตว์จะหายไป

95. วิธีทำความสะอาด คราบเขม่า หรือ คราบควันไฟ ที่ติดอยู่หน้า เตาไฟ ให้ใช้ผ้าชุบ น้ำส้มสายชู ที่ต้มพอร้อน เช็ดถูตามคราบเปื้อนให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง คราบสกปรก นั้น ๆ ก็จะออกไป

96. วิธีขจัด กลิ่น ลูกเหม็น ที่ติดเสื้อผ้า มีวิธีทำง่ายๆ คือ นำเสื้อนั้นไปพรมน้ำให้แค่ชุ่มพอ แล้วนำเสื้อไปแขวนไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพียงชั่วข้ามคืนเดียว กลิ่นลูกเหม็น ที่ติดอยู่กับเสื้อผ้าก็จะจางหายไปหมด

97. วิธีทำความสะอาด คนโทแก้ว ที่เอามือล้วงลงไปทำความสะอาดยากให้ทุบ เปลือกไข่ ใส่ลง ไป แล้วกรอกน้ำส้มสายชูตามลงไปเล็กน้อยเขย่าขวดแล้วแช่ทิ้งไว้สักครู่ เทเปลือกไข่ ออก ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกที คนโท แก้ว จะมองดูสะอาดหมดจดแล้วยังปราศจากกลิ่นอีกด้วย

98. วิธีทำความสะอาด กะละมัง ที่เปื้อนคราบ ด่างทับทิม ให้ใช้ เปลือกมะนาวเช็ด เพราะ เปลือก มะนาว จะดูดและดึงคราบสีของด่างทับทิมออกไป

99. วิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนบน โทรศัพท์ ที่มีสีขาว มีวิธีง่ายๆคือ ใช้ผ้าชุบ น้ำยาล้างเล็บ เช็ดถู ให้ทั่วคราบฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ ก็จะหายไป

100. วิธีการขจัด ขนสุนัข ออกจากพรม มีวิธีทำง่ายๆ คือ ใช้ ฟองน้ำ ชุบน้ำบิดพอหมาดๆ มาซับ จะสามารถซับขนสุนัขออกได้โดยง่าย


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่12 (การจัดโต๊ะทำงานตามหลัก ฮวงจุ้ย (Feng Shui))




การจัดโต๊ะทำงานตามหลัก ฮวงจุ้ย (Feng Shui)


ฮวยจุ้ย ตำแหน่งการจัดวางโต๊ะทำงาน

พื้นที่ห้องทำงานหรือ บ้าน บางพื้นที่นั้นอาจจะถูกจำกัดด้วยรูปแบบห้องหรือ สิ่งของที่วางอยู่และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำให้การวางตำแหน่งโต๊ะทำงานนั้น 
อาจจะไม่ถูกหลักตาม ฮวงจุ้ย ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นหลักการเดียวกับทางกายภาพ ที่เราเห็นทราบๆ กันอยู่แต่ไม่ทันได้ฉุกคิด ที่นี้เรามาลองเช็คตำแหน่งที่ไม่ควรวาง
โต๊ะทำงานกัน ครับ

1. ห้ามหันหลังให้ประตู
ตามหลักฮวงจุ้ย หมายถึง จะทำให้โดนหักหลัง ซึ่งตามหลักกายภาพ ก็ไม่ควรหันหลังให้ประตูอยู่แล้วเนื่องจาก เราจะไม่สามารถรู้ถึงพฤติกรรมรอบ ๆ ข้างได้เลยว่าใครจะทำอะไรที่ไหน หรือ จะย่องเข้ามาทำอะไรเมื่อไหร่  วิธีแก้ คือ หากระจกเงาบานเล็กๆ มาติดไว้ให้สามารถมองเห็นประตูด้านหลังได้จะช่วยลดความแรงตรงจุดนี้ได้

2. ด้านหลังของโต๊ะทำงาน ควรจะเป็นผนังทึบ หรือ ตู้เอกสารใบใหญ่ 
เพราะตามหลักการแล้ว จะไม่มีใครสามารถเดินผ่านหลังได้ เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลและ ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ผนังทึบ หรือ ตู้เอกสารบานใหญ่ที่จัดวางไว้ด้านหลังโต๊ะทำงานเปรียบเสมือนมี ภูเขาอยู่ด้านหลัง มีผู้หลักผู้ใหญ่ให้การ อุปถัมภ์ ค้ำจุน ช่วยเหลือ

3. ควรหลีกเลี่ยงการหันหน้าโต๊ะทำงาน เข้ากำแพงโดยตรง ตามหลักการแล้ว จะทำให้ผู้ทำงานรู้สึกหดหู่ และเป็นการลดทอน อำนาจ
วิธีแก้ ลองหาภาพวิว สวย ๆ หรือ กรอบรูปดิจิตอลที่เปลี่ยนภาพได้เรื่อยๆ มาวางดู

4.  ด้านขวามือโต๊ะทำงานไม่ควรเป็นทางเดิน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วเชื่อว่า จะทำให้คนทำงานอยู่ไม่เป็นสุข อยากจะเคลื่อนไหว เกิดความไม่แน่นอน หรือ ทำให้
เปลี่ยนงาน 

5. ควรจัดวางหนังสือ หรือ เอกสารไว้ทางด้านซ้ายมือ เพราะเชื่อวาง ด้านซ้ายมือของโต๊ะทำงาน คือแหล่งความรู้และ สติปัญญา

6. จัดวางปากกา สมุดบันทึก หรือ โทรศัพท์ไว้ทางด้านขวามือ เพราะหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า ด้านขวามือเป็นด้านของการติดต่อ สื่อสาร

7.  การเลือกสีของโต๊ะทำงาน หรือ รูปแบบของโต๊ะทำงานนั้น ให้พิจารณาจากองค์ประกอบของห้องเป็นสำคัญ ว่าใช้สีโทนไหน ลักษณะโทนสีเป็นอย่างไร สีโทน
เข้มนั้นให้ผลทางด้านความคิดสร้างสรร จินตนาการ ส่วนสีโทนอ่อน เหมาะกับการเริ่มต้นลงทุนใหม่ การเลือกคู่เฉดสีของโต๊ะทำงาน หรือ ตู้เก็บเอกสารก็ควรเป็นไป
ในทิศทางเดียวกัน เช่น โทนสว่าง โทนสีขาว ตัด เทาอ่อน หรือ โทนสีเมเปิ้ล ตัดสีเทา , โทนสีเข้ม มักจะตัดด้วยสีดำ เช่น หน้าโต๊ะสีไม้เชอรี่ ขาโต๊ะทำงานมักจะตัด
ด้วยสีดำ เพื่อเน้นงานเฟอร์นิเจอร์ ดูโดดเด่น 

8.  หลีกเลี่ยงการวางตำแหน่งโต๊ะทำงานไว้ตรงกับประตูทางเข้า เพราะหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า จะทำให้เกิดแรงปะทะ กับสิ่งไม่ดี เกิดการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้าย อยู่บ่อย ๆตำแหน่งนี้เหมาะที่จะวาง โต๊ะประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อ
วิธีแก้ ก็ลองหา ลูกแก้วคริสตัลเล็ก ๆ หรือ แจกันดอกไม้วาง เพื่อลดแรงปะทะ ลง หรือ หาพาร์ติชั่น หรือ ฉากกั้นโต๊ะมาจัดวางด้านหน้าโต๊ะทำงาน

9.  ไม่ควรหันหน้าโต๊ะทำงานชนกัน เพราะเชื่อว่า จะทำให้ผู้นั่งเกิดแรงปะทะ ซึ่งกันและกัน เป็นอริศัตรู กัน และ อาจจะไม่เป็นอันทำงานเนื่องจากนั่งคุยกันตลอดทั้งวัน
วิธีแก้ ก็นำต้นไม้เล็กมาวาง หรือ จัดวางพาร์ติชั่นกั้น หน้าโต๊ะ หรือมินิสกรีน กั้นหน้าโต๊ะทำงาน มาวางไว้



รู้หรือไม่ว่าการจัดโต๊ะทำงานตามราศีทำให้ชีวิตคุณราบรื่นได้ อยากรู้ว่าราศีของคุณ ควรจัดโต๊ะแบบไหน เรามีคำตอบมาบอก ครับ


ราศีเมษ (ARIES) 21มี.ค. - 20 เม.ย.

ดาวเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งการทำงานเด่นมาก ๆ อาจมีเรื่องต้องทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน หรือผู้เป็นเจ้านายบ่อยหน่อย ฉะนั้น ควรจะหาเพชรคริสตัลสีแดงมาวางบนโต๊ะทำงาน เพื่อสะท้อนเรื่องหงุดหงิดเหนื่อยใจออกไป และให้หาเทียนหอมสวย ๆ มาจัดวางเพื่อกระตุ้นความรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน

ราศีพฤษภ (TAURUS) 21 เม.ย. - 21 พ.ค.

ดาวแห่งการขยับขยายเปลี่ยนแปลงเริ่มทำงานมากขึ้น นั่นเท่ากับว่าคุณน่าจะมีโอกาสที่จะได้รับงานใหม่ ๆ แต่ก็มักจะต้องเจอเรื่องติดขัด ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจะเป็น ให้หาภาพภูเขามาวางหลังโต๊ะทำงาน และกระตุ้นโชคด้านการเปลี่ยนแปลงด้วยเสื้อผ้าที่มีสีชมพู และน้ำตาล

ราศีเมถุน (GEMINI) 22 พ.ค. - 21มิ.ย.

มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงาน หรือได้รับมอบหมายงานโปรเจกต์ใหม่ๆ แต่จะมีดาวแห่งความขี้เกียจทำงานอยู่เหมือนกัน เท่ากับว่าคุณอาจถูกตำหนิจากการทำงานที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบเอาได้ด้วย กระตุ้นความกระตือรือร้น ด้วยการเน้นแสงสว่าง หาโคมไฟ หรือเชิงเทียนเก๋ๆ มาวางประดับ เพื่อใช้กระตุ้นพลังงานแห่งความขยัน

ราศีกรกฎ (CANCER) 22 มิ.ย. - 22 ก.ค.

การทำงานกับหัวหน้า ดูราบรื่น ไร้คลื่นลม แถมจะได้ผลงานเต็มๆ อีกต่างหาก แต่การทำงานกับลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงานดูไม่ค่อยราบรื่นมากนัก มีภาวะถูกกลั่นแกล้งเอาได้ เช็กดูเก้าอี้ที่นั่งทำงานว่าเราไม่ได้นั่งหลังลอย และไม่มีมุมเสามาชนกับตำแหน่งที่นั่ง และถ้าจะให้ดี ลองหาน้ำล้นอันเล็กๆ สวยๆ มาวางไว้ที่โต๊ะทำงานเพื่อกระตุ้นโชคดูนะคะ

ราศีสิงห์ (LEO) 23 ก.ค. - 23 ส.ค.

โอกาสด้านการงานมีเข้ามามาก มีทั้งงานนอก งานใน เรียกได้ว่าล้นมือเต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะใครที่ทำงานกับคนต่างชาติ ต่างภาษา จะมีผลงานอันได้หน้าเอามากๆ กระตุ้นโชคด้วยการหารูปภาพดอกทานตะวันมาประดับบริเวณโต๊ะทำงาน และให้หาผ้าคลุมไหล่เก๋ ๆ มาติดที่ทำงานอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นโชคด้านการปรับตัวค่ะ

ราศีกันย์ (VIRGO) 24 ส.ค. - 22 ก.ย.

งานยุ่งเชียวค่ะ คุณเป็นคนทำงานเก่ง ถึงขั้นบ้างานกันเลยทีเดียว จะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานที่สำคัญ ได้หน้ามากกว่าเดิม แถมมักจะถูกเพื่อนร่วมงานเอางานมาให้ช่วยสะสางอยู่บ่อยๆ สะท้อนดาวร้ายที่ทำให้ต้องยุ่งเหยิงออกไปด้วยการแต่งบริเวณโต๊ะทำงานด้วยต้น ไผ่ปลอมสักต้นก็ดีนะคะ

ราศีตุล (LIBRA) 23 ก.ย. - 23 ต.ค.

น่าจะต้องเจอสภาวะที่จะถูกชักจูง หรือมีเรื่องจูงใจให้เปลี่ยนงาน แต่ไม่ได้สวยใสกว่างานเดิมนักหรอกค่ะ หากต้องการกระตุ้นโชคด้านการงานในปีนี้ คุณต้องเน้นไปที่ทิศใต้ของโต๊ะทำงาน ลองหาเต่าตัวน้อย ๆ มาวางเพื่อกระตุ้นโชคด้านการงานอันมั่นคง แข็งแกร่ง

ราศีพิจิก (SCORPIO) 24 ต.ค. - 22 พ.ย.

ดูเหนื่อยและมีเรื่องกดดัน หรือมีเนื้องานที่คาดหวังกับตัวคุณมากเอาการ ประมาณว่างานนี้ขาดคุณไม่ได้ มันจะขาดใจเอาได้ซะงั้นแหละ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมาขึ้นตรงกับคุณแทบทั้งหมด เรียกได้ว่าได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและคนในหน่วยงานมากซะจนคุณอึดอัด สิ่งที่คุณได้รับมอบหมาย คุณจะสะสางงานได้ดี ปีนี้จะต้องได้รับเชิญไปงานสัมมนา หรืองานประชุมครั้งสำคัญ และการเดินทางเกี่ยวกับเรื่องงานเด่น ต้องเดินทางบ่อยขึ้น

สำหรับคนราศีพิจิก โต๊ะทำงานควรมีสามเหลี่ยมรูปปิระมิด หรือที่ทับกระดาษแบบแก้วใสรูปสามเหลี่ยมไว้ป้องกันพลังที่เลวร้ายยามดวงตก พุ่งเข้าใส่ตัวคุณ หรือมีตู้กระจกเพื่อใส่ของสำคัญ หรือของโชว์ตั้งไว้ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาก็ตั้งเครื่องเสียง หรือคอมพิวเตอร์

ราศีธนู (SAGITTARIUS) 23 พ.ย. - 21 ธ.ค.

โอกาสที่จะได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง เปลี่ยนงานมีเด่นเอามาก ๆ แต่ไหงดูมันช่างติดโน่นติดนี่มากจัง แถมคุณชอบที่จะวางแผนโน่นนี่นั่นไว้เต็มไปหมด ทำงานเหมือนกดดันตัวเองมากไปหน่อย ลองกระตุ้นพลังงานด้านบวกที่โต๊ะทำงานด้วยการหาม้าสวย ๆ มาวาง เพื่อทำให้มีงาน มีเงิน มีผลงานเข้ามา ได้ราบรื่นมากขึ้น

ราศีมังกร (CAPRICORN) 22 ธ.ค. - 20 ม.ค.

โดยรวมจัดว่าดีค่ะ ความสัมพันธ์ของคุณกับเจ้านายดูหลั่นล้าดี เนื่องจากคุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง และมีความตั้งใจในการทำงานอันล้นหลาม แต่กับเพื่อนร่วมงานเนี่ยสิ ดูไม่ค่อยจะเข้าที มีเรื่องถูกใส่ร้าย หรือถูกนินทาบ่อยเชียว สะท้อนเรื่องแย่ ๆ ออกไปด้วยการตั้งไก่ตัวผู้บนโต๊ะทำงานกันหน่อยดีกว่านะคะ และอย่าไปใส่ใจกับเสียงคนรอบข้างที่ทำให้คุณจิตตกให้มากนัก

าศีกุมภ์ (AQUARIUS) 21 ม.ค. - 18 ก.พ.

น่าจะได้พานพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มีการไขว่คว้าหาโอกาสใหม่ๆ หรือการได้รับโอกาสใหม่ๆ เกิดขึ้นกับชีวิตการงานของคุณนะคะ กระตุ้นโชคที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้เป็นด้านบวก โดยการหาปลาโลมาน่ารัก ๆ มาตั้งไว้บนโต๊ะ และให้หาดอกกล้วยไม้สีม่วงแดงมาวางประดับโต๊ะทำงานค่ะ

ราศีมีน (PISCES) 19 ก.พ. - 20 มี.ค.

ดูแลผลงานของคุณให้ดีๆ นะคะ ไม่งั้นคนที่คุณไว้ใจเค้าอาจจะทำให้คุณผิดหวังเอาได้ ทำให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเกี่ยวกับหน้าที่การงาน หรือเนื้องานที่คุณทำร่วมกันโดนฉกไปซะหน้าตาเฉย ต้องรอบคอบให้มากขึ้น และไม่ควรจะไว้ใจใครมากเกินไป กระตุ้นพลังงานด้านโชคด้วยการหาลูกบอลไฟสีสวยๆ มาวางที่ทำงาน และให้หาตุ๊กตาช้างมาตั้งให้หันหน้าเข้าหาคุณ เพื่อเป็นการอัพเกรดดาวอำนาจให้ตัวคุณอีกระลอก





ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่11 ( วิธีเลือกซื้อเก้าอี้สำนักงาน...ขั้นเทพ...(ตอนที่๑))



วิธีเลือกซื้อเก้าอี้สำนักงาน...ขั้นเทพ...(ตอนที่๑)

ก่อนอื่นต้องขออภัย และขอบคุณสำหรับการติดตามของลูกค้าหลายๆท่าน ห่างๆหายหายไปบ้าง ด้วยตอนนี้ทางร้านทำเวบไซต์ www.sabuyinbed.com หาค่านมให้ลูกชาย และกิจการค่อนข้างได้รับการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง.... เลยห่างบล๊อกไปบ้างครับ
วันนี้คงเป็นการจั่วหัวเรื่องไว้ก่อน เนื่องจาก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ มีการให้ความสนใจกันมากเป็นพิเศษ..
หลักการทั่วไป
ถ้าเป็นไปได้ต้องทดลองนั่งด้วยตนเอง อย่าเลือกจากภาพแต่เพียงอย่างเดียว เพราะหลังและก้น ของใครของมันครับ....
กรณีที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อแบบ ธรรมดา หรือมีโช๊ค ปรับขึ้นลง ด้วยราคาปัจจุบันที่แตกต่างกันไม่มากแล้ว แบบมีโช๊คดีกว่า ฟันธง (ยกเว้นกรณีเดียวคือต้องการประหยัด และไม่มีความจำเป็นที่ต้องปรับความสูงแน่นอน ก็ใช้แบบธรรมดา)
หนัง หรือผ้า
เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต แล้วแต่คุณครับ คิดง่ายๆ กลัวเปื้อนก็เลือกหนัง (จะหนังแท้ หนังเทียม แล้วแต่เงินในกระเป๋า)  ถ้า อยากเน้นสวยงาม อยู่ในห้องแอร์แน่นอน และเป็นคนประเภทรักสะอาด เลือกผ้าก็ได้ ตามใจคุณ
ความสูงของเก้าอี้
ดังที่ได้แจ้งไปแล้วคือต้องทดลองนั่ง และอยู่ที่ความเหมาะสมกับโต๊ะทำงาน และพื้นที่ กรณีนี้ มีประเด็นที่ต้องคิดและเป็นอะไรที่สังคมไทยมากมาก เคยมีลูกค้า   ตัวสูงอย่างกับนักบาสจีน อยากได้พนักพิงสูงๆ แต่เจ้านายตัวเตี้ย ก็เลยกลัวจะล้ำเส้น ก็ต้องอดทนใช้กันไป..... แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นนายตัวเอง ฟันธงให้เลือกพนักพิงสูงครับ เพราะจะช่วยคุณได้มากในเรื่องหลังและกระดูกคอ .... อันนี้ทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนไทยคอนเฟิร์ม..
ขาเก้าอี้
ถ้าคุณเป็นคนน้ำหนักเบา ปรกติ ใช้ขาพลาสติก (แต่อย่าลืมผลิกดูด้านใต้ ว่าต้องตัน ขอย้ำว่าต้องตัน ไม่ใช่เป็นพลาสติกขึ้นรูปแบบสานกันไปสานกันมาไว้ เดี๋ยวก็หัก) แต่ถ้าคุณมากไปด้วยมวล (คืออ้วนในภาษาชาวบ้าน) แนะนำขาเหล็ก ส่วนจะเป็นเหล็กพ่นสี หรือชุบเงาเพื่อสวยงามแล้วแต่ความชอบและราคาครับ และกรณีประเภท มวลรวมระดับชาติ (อ้วนแบบสุดสุด) แนะนำแบบ สิบล้อ คือปรกติมีห้าแฉก ห้าล้อ เขาจะเพิ่มเป็นสิบล้อให้สมกับฐานะ อันนี้มีบางยี่ห้อที่ทำแบบขาสิบล้อลองสอบถามได้ครับ..
แล้วจะมาต่อตอนสองนะครับ.....
สรุปสั้นๆไว้๑๐ ข้อ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงตามนี้ครับ....
๑.ต้องทดลองนั่งเองทุกครั้ง เพื่อความเหมาะสมกับ การนั่งและการพิง
๒.นอกจากนั่งแล้วควรใช้นิ้วกดดูที่นั่งและพนักพิงจะพอรู้ได้ถึง ความแน่น นุ่ม กระด้าง ว่าเป็น  ฟองน้ำ   โฟม หรือกระดาษที่อัดไว้ ข้อสังเกตง่ายๆถ้าเป็นกระดาษที่อัดไว้จะไม่สามารถเว้าเข้ารูปต้นขาได้
๓.ควรยกดูน้ำหนักเก้าอี้ทุกครั้ง เพื่อความเหมาะสมกับน้ำหนักคนนั่ง
๔.ควรทดลองนั่งกับโต๊ะทำงาน เพื่อเช็คระยะความสูง ทดลองปรับให้ถูกใจ
๕.คำนึงถึงพื้นสำนักงาน บ้านด้วยทุกครั้งว่าเป็นพื้นไม้ ปูน กระเบื้อง และสอบถามผู้ขายเกี่ยวกับประเภทลูกล้อที่เหมาะสมกับพื้นที่ในการวางใช้งานจริง
๖.กรณีซื้อใช้ในสำนักงาน ให้สอบถามถึงระยะเวลาในการที่จะมีรูปแบบเก้าอี้ที่เลือกว่านานแค่ไหน ไม่ควรเลือกประเภทลดล้างสต๊อก เพราะกรณีที่จะซื้อเพิ่มเติมในอนาคต รูปแบบจะไม่เหมือนกันในสำนักงานเดียวกัน
๗.ลูกล้อคือสิ่งที่สัมผัสกับพื้นและรับน้ำหนัก ควรให้ความสำคัญด้วย ควรเลือกลูกล้อยางกลมตัน เพราะจะทนมากกว่าลูกล้อพลาสติกแบบสองฝา ซึ่งมักหลุดและแตกก่อน
๘.สอบถามระยะเวลาการรับประกันจากร้านค้าทุกครั้ง ว่าส่วนใดของเก้าอี้รับประกันเท่าใด
๙.ขอใบเสร็จจากผู้ขายทุกครั้ง
๑๐. ติดชื่อผู้ขาย และวันที่ซื้อไว้ที่แกนเก้าอี้  เพราะจะสะดวกในการตรวจสอบ และเป็นตำแหน่งที่ไม่ลบ หลุด ง่าย
...................................................................พบกันใหม่ในเอนทรี้หน้านะครับ..
ถูกใจ หรือไม่ เสนอแนะและทดลองนำไปใช้ได้นะครับ


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่10 (เกร็ดความรู้ในการเลือกใช้ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์)



เกร็ดความรู้ในการเลือกใช้ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์
พิจารณาประโยชน์ใช้สอยที่ต้องการ

เนื้อผ้า เลือกเนื้อผ้าที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย เช่นผ้าที่มีส่วนผสมของ cotton หรือผ้ากำมะหยีที่ให้ความรู้สึกหรูหราไปด้วยในตัว
กันน้ำ เลือกผ้าที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ (water repellent) เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและการอับชื้น
ความทนทาน เลือกผ้าที่มีส่วมผสมของ Polyester หรือ Rayon หรือผ้าที่มีค่า Rub Test ตั้งแต่ 15,000 ขึ้นไป เพราะมีความแข็งแรง และทนต่อการเสียดสีได้ดี โดยทั่วไปแล้วผ้าทอลายจะมีความทนทานกว่าผ้าพิมพ์
ทนต่อแสงแดด หากเฟอร์นิเจอร์ต้องถูกแสงแดดเป็นประจำ เลือกผ้าที่ทนทานต่อแสงแดดเพื่อลดการเกิดสีซีดจาง
ภูมิแพ้ เลือกผ้าบุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเพื่อลดปริมาณไรฝุ่นที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้ เช่น ผ้าบุหนัง
กันลามไฟ เพื่อความปลอดภัยเป็นพิเศษ เลือกผ้าบุที่มีคุณสมบัติกันลามไฟ (Flame Retardant) ที่ไม่เป็นเชื้อเพลิงหรือเกิดการลามไฟเมื่อถูกไฟไหม้
ปลอดสารพิษ เลือกผ้าที่มีตราสัญลักษณ์  Oeko-Tex Standard 100 ซึ่งเป็นผ้าที่ได้รับการรับรองว่าปราศจากสารตกค้างที่เป็นอันตราย


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่9 (เฟอร์นิเจอร์ ตามลักษณะการติดตั้ง)


เฟอร์นิเจอร์ ตามลักษณะการติดตั้ง

หากเราจะแบ่ง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ตามลักษณะการติดตั้งแล้วเราสามารถ แบ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ออกได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆคือ
1. เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ (Built-in Furniture หรือ Fixed Furniture)
2. เฟอร์นิเจอร์ ลอยตัว (Movable Furniture หรือ Loose Furniture)
3. เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถถอดประกอบได้ (Knock down Furniture)
เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ (Built-in Furniture หรือ Fixed Furniture)
หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ ที่ได้รับการออกแบบ และ ติดตั้งสำหรับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เป็นการเฉพาะ ยากที่จะเคลื่อนย้าย และติดตั้งใหม่ ข้อดีของ เฟอร์นิเจอร์ แบบนี้ คือ มีความแข็งแรงสูงมาก เนื่องจากยึดเกาะกับอาคาร หรือ โครงสร้างอาคาร มีรูปแบบเฉพาะตัว หรูหรา (Elegance) เป็นเอกเทศ (Unique) สามารถติดตั้ง และดัดแปลงให้เข้ากับพื้นที่ต่างๆ ได้โดยไม่จำกัด รวมทั้งมักจะนิยมออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ ให้สูง จนชนฝ้าเพดาน เพื่อประโยชน์การใช้สอยสูงสุด และป้องกันการสะสมตัวของฝุ่นได้เป็นอย่างดี (เหมาะสำหรับ ประเทศ ที่มีฝุ่นมาก อย่างบ้านเรา) อย่างไรก็ดี ข้อเสียที่สำคัญของ เฟอร์นิเจอร์ ติดตั้งกับที่ คือไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และเปลี่ยน รูปร่าง หน้าตาได้ยาก ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ หรือต้องการย้ายที่อยู่ เฟอร์นิเจอร์ เหล่านี้ จะต้องถูกรื้อถอนทิ้งไป โดยแทบจะไม่สามารถนำกลับ มาใช้ใหม่ได้อีกเลยรวมทั้งราคาของ เฟอร์นิเจอร์ ประเภทนี้ จะมีราคาแพงมาก เนื่องจากต้องใช้ แรงงานฝีมือ มาทำการ ติดตั้งที่หน่วยงานของลูกค้าเป็นการเฉพาะ และบ่อยครั้งที่ลูกค้าจะต้องทนกับปัญหา ในเรื่องของฝุ่น ที่เกิดจาก การทำงานในหน่วยงาน และกลิ่นสีที่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพอีกด้วย
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Movable Furniture หรือ Loose Furniture)
หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตสำเร็จที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ แล้วนำมาวางในหน่วยงาน ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบ และประโยชน์ใช้สอย ได้จากตัวอย่างที่มีอยู่จริง ในร้านค้าได้ ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ คือเลือกรูปแบบ และประโยชน์ใช้สอยได้ จากตัวอย่างที่มีอยู่จริง สามารถทดลองการใช้งานได้จริง ราคาถูกกว่าเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปตามพื้นที่ต่างๆ ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้การที่ผลิตสำเร็จจากโรงงานยังทำให้ตัดปัญหา เรื่องฝุ่นไม้ที่เกิดจากการทำงานในพื้นที่ และกลิ่นสีอีกด้วย ส่วนข้อเสียที่สำคัญ ของเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ ได้แก่มีรูปแบบ และขนาดจำกัดไม่สามารถปรับเปลี่ยน ให้เข้าพอดีกับพื้นที่ได้ และเฟอร์นิเจอร์ ที่มีความสูงมากๆ จะมีปัญหา เรื่องการสะสมตัวของฝุ่นบนหลังตู้ (เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสูงไม่เต็มพื้นที่) และอาจทำให้เกิด ภูมิแพ้ได้ รวมทั้งรูปแบบ ที่มีมักจะมีการผลิตเป็นจำนวนมากๆ เนื่องจากเป็น ระบบอุตสาหกรรม ทำให้ขาดความ เป็นเอกเทศ นอกจากนี้ งานตกแต่งภายใน ที่ใช้ แต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพียงอย่างเดียวจะให้ ความรู้สึกเหมือนห้องเช่า และส่วนใหญ่ มักมีประโยชน์ใช้สอยไม่ครบถ้วน ตามพื้นที่ที่มีอยู่ (เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจาก จะต้องขนย้ายได้) รวมทั้งอาจจะทำให้ดูไม่หรูหราเท่าที่ควร ในงานตกแต่งภายใน แล้วจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องผสมผสาน ทั้งงาน เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และติดตั้งกับที่เข้าด้วยกัน โดยเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ มักจะมีหน้าที่จัดเก็บของ ให้เป็นระเบียบ ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว มักจะเป็นจุดเด่นที่คอยโชว์ความสวยงาม หากเน้นที่เฟอร์นิเจอร์ชนิดใด ชนิดหนึ่ง มากเกินไปแล้ว งานออกแบบมักจะไม่สมดุล เช่น หากมีเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ มากเกินไปห้อง หรือบ้านอาจดูเหมือน ห้องเก็บของขนาดใหญ่ ในขณะที่มีแต่ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว บ้านก็ดูเหมือนบ้านเช่า ที่เจ้าของพร้อมจะย้ายออกได้เสมอ ดังนั้นงานออกแบบในปัจจุบัน จึงมักจะสร้างความสมดุลด้วยเฟอร์นิเจอร์ทั้งสอง ชนิดนี้เสมอ

เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดประกอบได้ (Knock down Furniture)

หมายถึง เฟอร์นิเจอร์ที่รวมเอาข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองระบบแรกเข้าด้วยกัน โดยมี ลักษณะเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งกับที่ ในขณะที่มีการผลิตที่เกือบจะ สำเร็จรูปจากโรงงาน เพียงแต่นำมาติดตั้งด้วยช่างผู้ชำนาญงานเพียงไม่กี่คน และใช้เวลาไม่นานนัก ทำให้ลดปัญหาเรื่องฝุ่นไม้ และกลิ่นสีในหน่วยงานได้เป็น อย่างมาก อย่างไรก็ดี เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ มักต้องการการออกแบบ และการตั้งเครื่องเพื่อเตรียมการผลิต ที่ยุ่งยาก และซับซ้อน ดังนั้น ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ จึงต้องทำการผลิตเป็นจำนวนมาก Mass Production เพื่อเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และการเตรียม การผลิตให้ลดลงมามากที่สุด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบ Knock down ในบ้านเรา นิยมผลิตโดยใช้วัสดุสังเคราะห์ ประเภท Particle Board หรือ Chip Board ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ง่าย ในการผลิต จึงส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ มีอายุการใช้งานต่ำกว่า เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากไม้จริง หรือไม้อัด นอกจากนี้ รูปแบบการผลิต ของเฟอร์นิเจอร์ Knock down ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากขั้นตอนการผลิต ค่อนข้างยุ่งยาก และเครื่องจักร ในการผลิตก็มีราคาสูงมาก ดังนั้นหน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ ประเภทนี้โดยส่วนใหญ่จึงเหมือนๆ กัน ทำให้เกิดสงครามราคา มีการตัดราคากันอย่างมากมาย และ สุดท้าย ผู้ผลิตก็ต้องไปทำการลดคุณภาพของสินค้าลงไปอีก ทำให้เฟอร์นิเจอร์ Knock down กลายไป เฟอร์นิเจอร์ราคาถูกไปในที่สุด


ความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ตอนที่8 (ลักษณะต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์และวิธีการดูแล)





ลักษณะต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์และวิธีการดูแล
เฟอร์นิเจอร์ที่บิลท์อินนั้น ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันสักเท่าไหร่ สาเหตุเนื่องมาจากว่าราคาในการบิลท์อินค่อนข้างที่จะสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาของงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปโดยทั่วไป และบางครั้งเจ้าของงานอาจจะได้งานไม่ถูกใจเท่าที่ควร เรื่องการที่จะต้องสั่งแก้ไข อาจจะต้องมีการรื้อทิ้งทำใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นงานสำเร็จรูปสามารถทำการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงแบบตามที่ต้องการได้ง่ายกว่า การซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา ให้ดูสวย สดใส ดูใหม่อยู่เสมอครับ โดยในขั้นตอนแรกต้องขัดสีเก่าออกด้วยกระดาษทรายหยาบเบอร์ 4 หรือ ผ้าทรายหยาบ ให้สีเก่าออกหมดตามซอกมุมต่างๆ ให้ใช้กระดาษทรายทับเพื่อสอดเข้ามุม แล้วปัดฝุ่นผง ขัดให้สะอาด แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ
ปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างมีราคาถูกไม่สูงเหมือนในอดีต เนื่องจากว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์นั้นมีต้นทุนต่ำว่าเดิม สังเกตได้จากร้านเฟอร์นิเจอร์ตามห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านเฟอร์นิเจอร์โดยทั่วไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเฟอร์นิเจอร์ยังคงขึ้นอยู่กับต้นทุนของวัตถุดิบที่นำมาผลิตว่าเป็นแบบใด โดยทั่วไปถ้าเป็นงานไม้จริงแบบประณีต หรือไม้ที่เทียบเท่าไม้จริงแบบประณีตนั้นราคาก็จะค่อนข้างที่จะสูงตามไปด้วย ส่วนในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ที่บิลท์อินนั้น ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมทำกันสักเท่าไหร่ สาเหตุเนื่องมาจากว่าราคาในการบิลท์อินค่อนข้างที่จะสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาของงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปโดยทั่วไป และบางครั้งเจ้าของงานอาจจะได้งานไม่ถูกใจเท่าที่ควร เรื่องการที่จะต้องสั่งแก้ไข อาจจะต้องมีการรื้อทิ้งทำใหม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นงานสำเร็จรูปสามารถทำการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงแบบตามที่ต้องการได้ง่ายกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องอาศัยจำนวนในการทำ
เฟอร์นิเจอร์ที่มีแบบที่เรียบง่าย ไม่มีมุมโค้ง ลวดลายมากนัก จะช่วยให้การทำความสะอาด ปัดฝุ่น เช็ดถูง่ายกว่าเฟอร์นิเจอร์ประเภทหลุยส์ , แกะสลักที่มีฝุ่นเข้าไปเกาะตามซอกมุมทำความสะอาดยากมาก วิธีการดูแลรักษาผ้าบุโซฟาหรือเบาะเก้าอี้ทานข้าว ควรใช้สเปรย์ที่ฉีดแล้วสามารถเป็นฟิล์มเคลือบผิวของผ้าบุให้ปราศจากคราบสกปรกที่จะฝังลงในเนื้อเส้นใยของผ้าได้ วิธีการคือการฉีดสเปรย์นั้นให้ทั่วพื้นผิวของผ้าบุทิ้งให้แห้งจะเป็นฟิล์มเกาะผิวของผ้าบุไว้ แต่ในการใช้ผ้าบุก็ควรที่จะทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการทำให้ เฟอร์นิเจอร์หนังที่บ้านของคุณดูใหม่ และสะอาด สวยงามอยู่เสมอ
ซึ่งวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์หนังนั้นมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้ วิธีที่ 1 คือ แบบทำความสะอาดคราบสกปรกให้หมดไป ทำได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นพอหมาด ๆ มาเช็ด ๆ ถู ๆ คราบสกปรก ระยะเวลาในการทำคือ 6 เดือน/ครั้ง วิธีที่ 2 คือ การเคลือบเงาให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่และเงางามอยู่เสมอ ทำได้โดยการเช็ดน้ำมันเคลือบเงา ถ้าเฟอร์นิเจอร์อยู่ในห้องแอร์ ก็ไม่ต้องเช็ดบ่อย ถ้าเฟอร์นิเจอร์ถูกแดดและฝุ่นอยู่บ่อย ๆ ก็ต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เพราะฝุ่นและเหงื่อเป็นศัตรูหลักในการดูแลรักษา ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปฏิบัติตามกันดูนะครับ รับรองว่าเฟอร์นิเจอร์หนังของคุณจะกลับมาเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ
และในส่วนต่อมาก็คือการซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา ให้ดูสวย สดใส ดูใหม่อยู่เสมอครับ โดยในขั้นตอนแรกต้องขัดสีเก่าออกด้วยกระดาษทรายหยาบเบอร์ 4 หรือ ผ้าทรายหยาบ ให้สีเก่าออกหมดตามซอกมุมต่างๆ ให้ใช้กระดาษทรายทับเพื่อสอดเข้ามุม แล้วปัดฝุ่นผง ขัดให้สะอาด ต่อมาก็ขัดเรียบอีกครั้งด้วยกระดาษทรายเบอร์ 2 เพื่อให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เรียบเนียน และทำความสะอาดอีกครั้ง
แล้วก็จัดการทาชแลคสำเร็จรูปรองพื้นก่อน 1 เที่ยว เพื่อป้องกัน สีหรือยางไม้ออกมาแล้วค่อยทาสีตามต้องการโดยทาสีแต่ละเที่ยวทิ้งระยะห่างประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ลายให้ทาสีแลกเกอร์ ผสมทินเนอร์ในอัตราส่วน 1:1 เช่นกัน และในส่วนที่ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่สามารถทาด้วยแปรงได้สะดวกนั้นเช่น ขาเก้าอี้ ตามซี่ของพนักพิง ให้ใช้ถุงมือสำหรับทาสีชุบสี บีบสีให้หมาดๆ แล้วกำส่วนที่ต้องการทาสีหลวมๆรูดไปมาจนทั่ว ดพียงเท่านี้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นของเรา ก็จะดูสวยงาม สดใส และใหม่อยู่เสมอแล้วละครับ ไม่ยากเลยใช่มั้ยละครับ สำหรับการจัดการซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่าของเรา นอกจากจะทำได้เองง่ายๆ แล้ว ยังคงคุณภาพเฟอร์นิเจอร์ของเรา ให้อยู่ทนนาน ใช้การได้คงทน ถาวร คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ